แปลกใจกันไม๊ที่ปั๊มน้ำมันเริ่มมีตู้ชาร์จไฟเพิ่มขึ้น? หรือว่ารถไฟฟ้ามันจะมาเร็วกว่าที่เราคิด!
โดย: คุณภาคภูมิ วรรณแสง บรรณาธิการ Auto-Business Today
ยังมีหลายความคิดมองว่าประเทศไทยยังห่างไกลการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าหรือ BEV หลายคนคิดว่ามันเป็นกระแสที่น่าจะเป็นเฉพาะกลุ่มเล็กๆ มากกว่า ถ้าลองมองให้ดีในวันนี้จะเห็นว่าสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าค่อยๆ เพิ่มหนาตามากขึ้น ค่อยๆ มาล้อมเราโดยที่ไม่ค่อยรู้สึกตัว พอรู้ตัวอีกทีเราก็เห็นสถานีชาร์จรอบตัวเราเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน หรือแม้แต่สถานที่ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในช่วงสองปีที่ผ่านมาถ้าไม่ติดสถานะการ์ณเรื่องโรคระบาด เราจะได้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในไทย
วันนี้หลายคนยังคิดว่าอัตราการเติบโตของรถยนต์ BEV ยังน้อยอยู่ แต่ถ้าลองย้อนกลับไปดูปี 2563 ที่ผ่านมาจะเห็นว่าการเติบโตของรถในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น มียอดจำหน่ายถึง 1,288 คัน เติบโตขึ้นถึง 79.4 % มีสถานีชาร์ตทั้งหมด 674 สถานี มี 1,974 หัวจ่าย แต่การคาดการในปี 2564 เฉพาะกลุ่มรถ BEV ( battery electric vehicle ) หรือรถไฟฟ้า 100% น่าจะมียอดขายเติบโตสูงขึ้นราว 210-288 % หรือราว 4,000 – 5,000 คัน ที่สามารถคาดการณ์ไว้สูงขนาดนี้เพราะเพียงแค่ช่วงสองเดือนแรกของปี 2564 อัตราการเติบโตก็สูงขึ้นถึง 42.6 % เข้าไปแล้ว (ข้อมูลจากสถาบันวิจัยกสิกรไทย ถึงเดือน มีนาคม 2564)
สิ่งสำคัญคือในปี 2564 มีรถไฟฟ้าที่ทยอยเปิดตัวกันอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ORA Good Cat จากค่าย GWM และรถในกลุ่มของฝั่งจีนที่ทยอยมาเปิดตัวในบ้านเรา นับรวมถึงค่าย Mercedes-Benz ที่ลงหลักปักฐานโรงงานประกอบแบตเตอรี่ เตรียมเปิดไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนุกรมของ Mercedes-EQ
ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปี 2564 เพียงแค่ช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ทำให้คนรักรถต้องตื่นตลึงคือยอดจองของ MG Cyberster เกือบ 500 คัน ซึ่งเป็นรถคอนเซ็ปคาร์ที่จะเริ่มผลิตในปี 2566 ซึ่งลูกค้าที่จองสิทธิ์จะได้รับส่วนลดมูลค่า 10 ของเงินจองซึ่งเงินจองสูงสุดคือ 10,000 บาท และข้อมูลทางเทคนิคก็ยังไม่มีอะไรเปิดเผยมาก นอกจากระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งได้มากกว่า 800 กม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที ซึ่งอัตราเร่งระดับนี้เทียบเท่ากับรถยนต์ซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว
สถานีชาร์จไฟเริ่มผุดขึ้นราวดอกเห็ด
สถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะสถานีชาร์จเร็วหรือ DC ชาร์จนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างหนาตา ถ้าเข้าไปดูสถานีชาร์จทั้งของฝั่งเอกชน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะเห็นว่ามีสถานีรองรับครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ อาทิเช่นของ EA Anywhere https://www.eaanywhere.com/# ส่วน PEA Volta เป็นจุดชาร์จในปั๊มบางจากที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคร่วมมือกัน ณ วันนี้มีมากกว่า 70 สถานี 137 เครื่องชาร์จ
สำหรับค่าย MG เองมีสถานี้ชาร์จของตัวเองไม่น้อยกว่า 120 สถานีชาร์จอันนี้เฉพาะให้บริการลูกค้าของตัวเอง และ MG ยังมีความร่วมมือกับอีกหลายองค์กร เช่น ร่วมมือกับปั๊มน้ำมันบางจาก เป็นสถานี Super Charge ที่มีการวางแผนไว้ว่าจะขยายให้ครอบคลุมทุกระยะ 150 กิโลเมตรต่อสถานี และวางแผนไว้ว่าจะมีให้ครบ 500 สถานี สำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ไม่น้อยหน้าลุยขยายสถานีชาร์จให้ได้ราว 50 สถานีในปีหน้า ภายใต้ชื่อ EleX by EGAT รวมถึงขยายตลาดภาคครัวเรือนอีกด้วย
ถ้ายังเห็นภาพไม่ชัดลองดูค่าย MG และ CP Foton ที่เครือ CP ถือหุ้นอยู่ ค่าย CP Foton นั้นเน้นรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า เน้นการใช้งานระยะสั้นต่อวันเช่นการใช้งานในเมืองมีระยะการวิ่งต่อวันค่อนข้างคงที่ รถบรรทุกใช้งานในเมืองจะมีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงสูงมากเพราะต้องแบกน้ำหนักออกตัวตลอดเวลา ไม่เหมือนรถวิ่งข้ามจังหวัดพอรถเริ่มลอยตัวอัตราสิ้นเปลืองจะลดลง เมื่อนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนรถบรรทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือลดค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร์ได้มาก
สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการลดมลพิษได้มาก มลพิษทั่วโลกหลักๆ มาจากรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าจึงมาช่วยลดทั้งค่าใช้จ่ายและลดมลพิษ ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นสถานีชาร์จตามหน้าร้านสะดวกซื้อ ถ้าดูหน้าร้านสะดวกซื้อยุคใหม่เราจะเห็นพื้นที่จอดรถจำนวนมาก การตั้งสถานีชาร์จใช้เวลาไม่นานและต้นทุนไม่มากวันนี้เราเริ่มเห็นกันบ้างแล้ว ซึ่งการขยายตัวของสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ จะสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่จะนำร่องการใช้งานรถสาธารณะไฟฟ้าในช่วง 1-2 ปีนี้
ในปีหน้าเราจะเห็นรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายการแข่งขันก็จะดุเดือดมากขึ้น การไฟฟ้าทั้งนครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถไฟฟ้า มีการปรับเปลี่ยนขั้นตอน ค่าธรรมเนียม และความรวดเร็วเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังไฟฟ้ามากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ช่วงต้นปีหน้าเราจะได้เห็นตัวเลขสรุปยอดจำหน่ายของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2564 แล้วเมื่อนั้นเราจะเห็นภาพชัดเจนว่า รถไฟฟ้าไม่ได้ไกลเกินตัว
ที่มา business today
วันที่ 10 ธันวาคม 2564