ตลาดหุ้นเวียดนามขึ้นแท่น "ตลาดหุ้นทรุดหนักที่สุดในโลก" ในปีนี้
ตลาดหุ้นเวียดนามทรุดตัวลง 36% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นตลาดหุ้นที่ "ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในโลก" ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลงนำตลาด
นักลงทุนใน ตลาดหุ้นเวียดนาม ต่างรู้สึก “ถอดใจ” หลัง หุ้นตกไม่หยุด "ผมรู้สึกแย่มาก ตลาดหุ้นตกแล้วตกอีกโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมจึงตัดสินใจเลิกเล่นหุ้นนับตั้งแต่นี้" นายเหงียน เบียน ครูสอนว่ายน้ำวัย 33 ปีกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความใฝ่ฝันของนายเบียนในการซื้ออพาร์ทเมนท์ในเมืองฮานอยได้สลายไปแล้ว หลังจากที่เงินลงทุน 43,000 ดอลลาร์ในการเริ่มต้นเล่นหุ้นของเขาได้หายวับไปกว่า 40% ใน ตลาดหุ้นเวียดนาม นักลงทุนรายย่อยครองวอลุ่มซื้อขายมากถึง 85% ขณะที่ตลาดดิ่งลงอย่างหนักในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย
- สภาพคล่องที่ตึงตัว
- การที่รัฐบาลเข้าตรวจสอบการระดมทุนของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวด โดยได้มีการจับกุมตัวผู้บริหารของบริษัทหลายแห่ง
- นอกจากนี้ การดิ่งลงของตลาดยังมีสาเหตุจากการที่นักลงทุนถูกบังคับขายในการซื้อขายด้วยมาร์จิ้น
- เศรษฐกิจเวียดนามถูกกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูง รวมทั้งการก่อหนี้จำนวนมาก
นายฮา ไฮ ดัง โบรกเกอร์วัย 26 ปี ซึ่งดูแลบัญชีลูกค้าจำนวนเกือบ 200 ราย เปิดเผยว่า ลูกค้าของเขาราว 80-90% ต่างก็ขาดทุนจากการเล่นหุ้น "เมื่อ 1-2 ปีก่อน ผมแทบไม่ต้องเชิญคนเข้ามาเปิดบัญชีหุ้น แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ"
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลูกค้ารายย่อยเปิดบัญชีใหม่เพียง 96,290 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564 และลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากที่เคยพุ่งแตะระดับ 476,000 รายในเดือน พ.ค. ส่วนวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยในตลาดหุ้นโฮจิมินห์เหลือเพียง 436 ล้านดอลลาร์/วันในเดือนพ.ย.นี้ โดยเป็นการลดลงจาก 761 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปีนี้ อย่างไรก็ดี ท่ามกลางภาวะทรุดตัวของตลาด นักลงทุนต่างชาติมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะเข้าทยอยเก็บหุ้นเวียดนาม เนื่องจากมีค่า P/E Ratio เพียง 8.3 เท่า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2555รายงานของบลูมเบิร์กเปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นเวียดนาม 315 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. หลังจากขายสุทธิในเดือนก.ย.และต.ค.
ที่มา : ฐานเศรษฐฏิจออนไลน์