จีนหนุนศก.เอเชียฟื้นสวนทางสหรัฐ-ยุโรป
จีนหนุนศก.เอเชียฟื้นสวนทางสหรัฐ-ยุโรป โดยข้อมูลทางเศรษฐกิจหลายๆตัวบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเฟสใหม่ของจีนจะแข็งแกร่งและสดใส ขณะที่เศรษฐกิจโลกหดตัวประมาณ 4% ในปีนี้
ภูมิภาคเอเชียเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรางๆจากอานิสงส์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของพี่เบิ้มใหญ่ในภูมิภาคเดียวกันอย่างจีน ในช่วงเวลาไม่ถึงปีหลังจากจีนประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 รายแรกของโลก
ขณะที่ทั่วโลกต่างจับตามองการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่3 พ.ย.อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการดิ้นรนต่อสู้เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในสหรัฐและในภูมิภาคยุโรปที่ล่าสุด
เยอรมนี-ฝรั่งเศส สั่งล็อกดาวน์รอบใหม่ทั่วประเทศนาน 1 เดือน และบรรดาผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หารือเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นร่วมกันอีกครั้ง
“เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เรียกร้องให้สมาชิกอียู ร่วมกันรับผิดชอบเพื่อต่อสู้กับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ในทุกๆ ด้าน พร้อมประกาศแผนการใหม่ที่อีซีจัดทำขึ้นในการยกระดับความร่วมมือในอียู เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตสาธารณสุข ซึ่งครอบคลุมถึงการแก้ไขการส่งต่อข้อมูลเพื่อให้เอื้อต่อการตัดสินใจ การดำเนินการตรวจหาเชื้อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การตรวจติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด และการใช้แอปพลิเคชันเพื่อแจ้งเตือนการระบาดข้ามพรมแดน และอื่นๆ
ในการแถลงข่าวทางไกลร่วมกับปีเตอร์ ไพออท นักจุลชีววิทยาชาวเบลเยียม ฟอน เดอร์ เลเยน ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสวมหน้ากากอนามัย การรักษาสุขอนามัยของมือ รวมถึงการหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่แออัด และการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก
ไพออท ซึ่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษของฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวว่า หลังควบคุมการระบาดรอบแรกได้สำเร็จในช่วงฤดูร้อน หลายประเทศในยุโรปได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมมากเกินไป ซึ่งมาตรการใหม่ๆ ที่ออกมารวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการตรวจหาเชื้อ โดยอีซีได้จัดสรรเงิน 100 ล้านยูโรเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น ชุดทดสอบ ให้กับประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนการตรวจหาแอนติเจนอย่างรวดเร็ว
ขณะที่สหรัฐและยุโรปกำลังวุ่นวายกับการรับมือโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น จีนกลับประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจอย่างเงียบๆ และขณะนี้เป็นเพียงชาติเศรษฐกิจใหญ่เพียงชาติเดียวในโลกที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 1.9%ในปีนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยตัวตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) จีนในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 4.9% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าจะขยายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 5.2% แต่ก็เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 3.2%
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรก เศรษฐกิจจีนขยายตัว 0.7% เทียบกับปีที่แล้ว จากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้มาตรการต่างๆ ทั้งลดหย่อนภาษี ลดดอกเบี้ย และสนับสนุนการจ้างงาน เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ประกอบกับอุตสาหกรรมผลิตกลับมาดำเนินการอย่างปกติ ขณะที่การบริโภคเริ่มฟื้นตัว
“ข้อมูลทางเศรษฐกิจหลายๆตัวบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเฟสใหม่ของจีนจะแข็งแกร่งและสดใส ขณะที่เศรษฐกิจโลกหดตัวประมาณ 4% ในปีนี้ แต่จีนคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 2% ”อีเลียต คลาร์ก นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากเวสต์แพค ให้ความเห็น
ขณะที่ทีมนักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย กล่าวว่า สำหรับประเทศเพื่อนบ้านจีน การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะช่วยเพิ่มความต้องการด้านการส่งออกและสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศตัวเอง จีนยังคงเป็นผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์หลักเพียงประเทศเดียว ขณะที่ผลผลิตทางด้านอุตสาหกรรมก็เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ยอดนำเข้าของจีนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 13.2% และยอดนำเข้าสินค้าประเภทเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น 28% ส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ผลิตในไต้หวันและเกาหลีใต้โดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับที่เกาหลีใต้ประกาศอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายไตรมาสในเดือนก.ย.ว่าเติบโตรวดเร็วที่สุดในรอบทศวรรษที่1.9% หลังจากช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้หดตัว 3.2% ส่วนยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 15.6% ในไตรมาส3 เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2529 เทียบกับช่วงไตรมาส2ที่หดตัว 16.1%
"การส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และชาติเศรษฐกิจอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจช่วงไตรมาส3ขยายตัวดี นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังก่อผลดีแก่ญี่ปุ่นที่ส่งออกไปจีนในสัดส่วนกว่า22% มากกว่าที่ญี่ปุ่นส่งออกไปสหรัฐในสัดส่วน 19% "ฮง นัม-กิ รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้กล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 30 ตุลาคม 2563