MOVE 2022 ดันไทยฮับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ สร้างรายได้ 500 ล้าน
"จุรินทร์" จัดงาน MOVE 2022 ครั้งที่ 3 ดัน Soft Power ไทยเป็นฮับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของเอเชีย คาดสร้างรายได้งานภายในงานกว่า 500 ล้านบาท
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Multimedia Online Virtual Exhibition 2022 หรือมูฟ (MOVE) ว่า งานมูฟ (MOVE) เป็นโครงการเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์ของไทยกับผู้ประกอบการในต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2565 โดยเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากวงการภาพยนตร์จากทั่วโลกเข้าชมเว็บไซต์ https://move-ditp.com/ เชื่อว่าไม่น้อยกว่า 10,000 ราย
ทั้งนี้ คาดว่าเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจไม่น้อยกว่า 200 คู่ สร้างมูลค่าการค้าแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งงาน MOVE ปีนี้ จะมุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการในกลุ่มภาพยนตร์และอนิเมชั่นบริการเกี่ยวเนื่องรูปแบบออนไลน์ ซึ่งงานนี้จะมีกิจกรรม 2 กิจกรรมหลัก
(1)กิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างผู้ประกอบการของไทย 30 ราย และต่างประเทศที่เข้ามาซื้อ 40-50 ราย และ
(2)กิจกรรมพิตชิ่ง (Pitching) ให้ 5 บริษัทของไทย นำเสนอผลงานให้ 15 บริษัทต่างประเทศ เพื่อซื้อหรือเจรจาต่อไปเพื่อทำตัวเลขให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย
“อยากเห็นอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยนำซอฟต์พาวเวอร์ มาผสมผสานเพื่อสะท้อนความเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทยลงไปในเนื้อหาของดิจิทัลคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ต่าง ๆ โทรทัศน์เกมหรืออื่น ๆ รวมทั้งแอนิเมชั่นนอกจากขายศักยภาพของภาคธุรกิจด้านนี้ของไทยแล้วให้ขายความเป็นไทยเข้าไปด้วย จะได้สองต่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของความเป็นเรา คู่ขนานกันไปพร้อม ๆ กัน”
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า มูลค่าการค้าในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ของไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถสร้างมูลค่ารวมถึง 11,634 ล้านบาท ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 7,321 ล้านบาท และเป็นแอนิเมชั่นกับแคแร็กเตอร์ 3,517 ล้านบาท เกม 706 ล้านบาท และ e-learning 90 ล้านบาท รวม 11,634 ล้านบาท เพื่อจับมือร่วมกันกับภาคเอกชนเดินหน้าสร้างประเทศไทยให้เป็นฮับของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของเอเชียให้ได้ต่อไปในอนาคต
ผลการสำรวจเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมามูลค่าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยมีมูลค่าสูงมากถึง 200,000 ล้านบาท เป็นมูลค่าที่เกิดจากภาพยนตร์กับโทรทัศน์รวมกัน 153,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจให้ชมภาพยนตร์ผ่านออนไลน์ถึง 36,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญอีกตัวหนึ่งคืออุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ที่พวกเรากำลังจับมือเดินไปข้างหน้า เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศต่อไป จะไปรวมในตัวเลขการส่งออกของประเทศที่เป็นพระเอกการขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศ
นอกจากนี้ เมื่อมีการเปิดประเทศได้การท่องเที่ยวจะเข้ามาช่วยเติม แต่ตอนนี้ยังต้องใช้เวลาเพราะสถานการณ์โควิดยังไม่เลิกและไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยการส่งออกล่าสุด ตัวเลขเดือน ม.ค.-มิ.ย.ทำเงินเข้าประเทศถึง 5 ล้านล้านบาท รวม 6 เดือนเป็นบวกรวมกันถึง 12.7% การส่งออกยังเป็นพระเอกและดิจิทัลคอนเทนต์เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลขส่งออก
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 1 สิงหาคม 2565