ทน "ดอย" ไม่ไหว แค่ 3 สัปดาห์ นักลงทุนแห่ขายบิตคอยน์ขาดทุน 33%
ปิดรายงาน Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชน เผยนักลงทุนบิตคอยน์ที่เข้าซื้อปีที่แล้ว ทน "ดอย" ไม่ไหว เทขายขาดทุน 33% ใน 3 สัปดาห์
วันที่ 8 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า Glassnode ผู้วิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชน (On-Chain Analytics) เผยแพร่บทวิเคราะห์ของตน โดยระบุว่าในช่วง 3 สัปดาห์ หรือ 21 วันที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนที่ถือครองเหรียญบิตคอยน์ (BTC) มีการเคลื่อนย้ายหรือ “ขาย” กว่า 2.2 แสน BTC ซึ่งเป็นที่สังเกตว่ากลุ่มนี้เป็นนักลงทุนระยะยาว (Long Term Holder ซึ่งหมายถึง ที่อยู่ที่เก็บ BTC ไว้โดยไม่เคลื่อนย้ายไปที่กระดานซื้อขาย)
รายงานของ Glassnode เปิดเผยว่า ผู้ถือครองบิตคอยน์ระยะยาวบัญชีดังกล่าว ถือครองบิตคอยน์รวมกัน 13.3 ล้าน BTC หรือคิดเป็น 79.85% ของอุปทานบิตคอยน์ในปัจจุบัน และมีการกระจายการถือครอง (การกระจายการถือครองไม่ต่างจากการ “ขาย”) ราว 222,000 BTC ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นราคาขายขาดทุน หากคิดตามค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ ตัวบ่งชี้ LTH-SOPR ซึ่งวัดอัตราส่วนระหว่างราคาขายกับราคาซื้อเฉลี่ย จะขาดทุน 33%
นอกจากนี้ กลุ่มที่เข้าซื้อและถือครองบิตคอยน์ในช่วงปี 2564 เป็นกลุ่มที่เข้าซื้อ ณ จุดสูงสุดตลอดกาล (All Time High) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
พฤติกรรมโดยรวมของผู้ถือครองระยะยาวในกลุ่มดังกล่าวนี้ ได้เริ่มเปลี่ยนจากการถือครองไว้เฉย ๆ (HODL) เป็นการเคลื่อนย้ายเพื่อขายในช่วง 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากตัวเลขการเข้าลงทุนซื้อสะสมตลอดช่วงปีที่แล้วถึงต้นปีนี้ราว 79,000 BTC ต่อเดือน เป็นการเคลื่อนย้าย กระจาย หรือขายบิตคอยน์ออกราว 47,000 BTC ต่อเดือน
รายงานดังกล่าววิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะการฟื้นตัวของตลาดเมื่อตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์ขยับขึ้นมาติดแนวต้านที่ 24,000 เหรียญสหรัฐ/BTC ทำให้ผู้ถือครองเหรียญระยะยาวที่เข้าลงทุนในช่วงปีที่ผ่านมามีโอกาสขายเหรียญบางส่วนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง
ขณะที่รายงานนี้ ราคาบิตคอยน์ปิดแท่งวันของวันที่ 8 สิงหาคม เคลื่อนไหวอยู่ที่ 23,000 เหรียญสหรัฐ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 8 สิงหาคม 2565