เปิดฟ้าส่องโลก : คนญวนรวยเร็วที่สุดในโลก
ใครจะนึกว่าซาดิ่ญหรือไซ่ง่อน ที่ตอนนี้เราเรียกกันว่านครโฮจิมินห์ จะเติบโตเร็วมาก นอกจากนครโฮจิมินห์แล้ว อีกเมืองที่กำลังเป็นที่พูดถึงของนักลงทุนคือต๋งบิ่ญ ล็องโด๋ ดั่ยลา ที่ปัจจุบันเรียกกันว่ากรุงห่าโหน่ยหรือฮานอย เมืองหลวงของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
JL City Momentum Index 2020 จัดให้โฮจิมินห์เป็นนครที่มีความเคลื่อนไหวสูงสุดเป็นอันดับ 3 จาก 130 มหานครทั่วโลก ใครจะนึกว่าอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์จะมีราคาพุ่งพรวด คอนโดมิเนียมที่ชาวต่างประเทศนิยมซื้อเพื่อพำนักพักอาศัย ตอนนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5,518 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร พื้นที่เช่าสำนักงานก็สูงขึ้นไปอีกเกือบ 30 ดอลลาร์ต่อตารางเมตร ตอนนี้ IRR หรือผลตอบแทนภายในสำหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในนครโฮจิมินห์สูงถึงร้อยละ 20
ไนท์แฟรงค์ บริษัทฝรั่งที่สำรวจสินทรัพย์สุทธิรายงานว่า พ.ศ.2549-2559 คนญวนที่มีสินทรัพย์สุทธิเกิน 30 ล้านดอลลาร์ (960 ล้านบาท) ขึ้นไป มีเพิ่มถึงร้อยละ 320 เมื่อเทียบกันแล้ว คนจีนกับอินเดียยังรวยเร็วสู้คนญวนไม่ได้ ขณะนี้คนญวนรวยเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก
วิกฤติโควิด-19 ทำให้เวียดนามโดดเด่นขึ้น (เช่นเดียวกับไทย) องค์การอนามัยโลกประกาศชื่นชมและยืนยันว่าเวียดนามรับมือโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และเผยแพร่ข้อมูลอย่างเปิดเผยและโปร่งใส
นักลงทุนต่างชาติกำลังเร่งย้ายฐานการผลิตไปที่เวียดนาม ทั้งแอปเปิลของสหรัฐฯ ซัมซุงของเกาหลีใต้ เอฟดีไอหรือการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเดือนเมษายน 2563 ที่เข้าเวียดนามเพิ่มกระฉูดถึงร้อยละ 81 ไปเจอข้อมูลของกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนามที่เปิดเผยว่า 20 วันแรกของเดือนมกราคม 2563 มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาที่เวียดนามเพิ่มถึงร้อยละ 179.5
พ.ศ.2562 เอฟดีไอทั้งปีของเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 38,020 ล้านดอลลาร์ กลุ่มทุนของไทยเองก็ไปกันเยอะ ทำธุรกิจและขายของให้กับคนไทยได้เงินเท่าไหร่ก็ขนเงินไปต่อยอดลงทุนในเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นซีพี (เกษตรอุตสาหกรรม) ไทยเบฟ (ค้าปลีก) ปตท. บี.กริม และกัลฟ์ (ไฟฟ้าและพลังงาน) อมตะ (นิคมอุตสาหกรรม) เอสซีจี (ปิโตรเคมีและบรรจุภัณฑ์) เซ็นทรัล (ค้าปลีก) ฯลฯ
ไทยสถาปนาการทูตกับเวียดนามเมื่อ พ.ศ.2519 ถึง พ.ศ.2544 ก็ครบรอบความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม 25 ปี ฉลองในระดับรัฐบาลก็ทำกันไป แต่ระดับประชาชน ฯพณฯ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำไทยสมัยนั้นจัดงานวัฒนธรรมไทย-เวียดนาม ครบรอบ 25 ปี ที่หน้าบ้านของผม พี่น้องชาวญวนนั่งรถจากเวียดนามเหนือ กลาง ใต้ มาลาดกระบัง พี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียดนามในไทยก็มาร่วม รวมแล้วมีคนเป็นพัน และในปีนี้เองที่นายกรัฐมนตรีของไทย (ดร.ทักษิณ ชินวัตร) ไปเยือนเวียดนามเป็นครั้งแรก หลังจากนั้น เวียดนามก็เจาะจงจัดงานลักษณะนี้ที่หน้าบ้านของผมอีกครั้งใน พ.ศ.2546
ผมยังจำเวียดนามเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วได้ ผู้คนยังยากจนมาก ระดับศาสตราจารย์ อธิการบดีและผู้ใหญ่ในจังหวัดทางภาคกลางต้องนั่งรถยนต์เป็นพันกิโลเมตรจากเวียดนามมากรุงเทพฯ ทุกคนพกสมุดบันทึก เมื่อพบเห็นสิ่งต่างๆ ก็ควักปากกาขึ้นมาจด ยกกล้องขึ้นมาถ่าย “โอ ประเทศไทยของท่านเจริญมาก เจริญจริงๆ”
พ.ศ.2547 เวียดนามมีกฎหมายให้ชาวเวียดเกียวหรือชาวเวียดนามโพ้นทะเลที่เคยออกจากประเทศไปในสมัยสงครามและได้สัญชาติของประเทศอื่นแล้ว สามารถกลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในแผ่นดินเวียดนามในปริมาณจำกัด
ทำให้ใน พ.ศ.2547 มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าเวียดนามมโหฬาร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพวกเวียดเกียว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวียดนามก็โตอย่างเร็ว คนญวนที่ไปอยู่ต่างประเทศขยันอดทน จำนวนหนึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าในทวีปยุโรปและสหรัฐฯ เมื่อได้รับเกียรติจากรัฐบาลเวียดนามใน พ.ศ.2547 ต่างก็กลับมาบ้านเกิดและนำสินค้าเวียดนามไปขาย สินค้าเวียดนามตีตลาดโลกกระฉูด มีเงินเข้าจากการค้าขายระหว่างประเทศอีกทางหนึ่ง
ความที่ทำงานร่วมกับเวียดนามระหว่าง พ.ศ.2540-2550 ผมจึงพอทราบเบื้องหลังความสำเร็จของเวียดนามอยู่บ้าง ซึ่งต้องมาเขียนรับใช้กันในโอกาสหน้าครับ
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 29 พฤษภาคม 2563