เวียดนามพบติดเชื้อใหม่ 28 ดับเพิ่มอีก 2 ส่วนฮานอยเผยชุดตรวจโควิดใกล้หมดแนะประชาชนสังเกตตัวเอง
รอยเตอร์/วีเอ็นเอ็กซ์เพรส - เวียดนามรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 28 คน และเสียชีวิตอีก 2 คน วันนี้ (4) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 670 คน ขณะที่ทางการกรุงฮานอยเผยว่า ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร็ว ที่จำเป็นต้องใช้ตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางกลับจากดานังกว่า 88,000 คน เริ่มขาดแคลน และแนะให้ประชาชนเฝ้าสังเกตอาการของตัวเอง
การตรวจหาเชื้อแบบมุ่งเป้าและการกักกันโรคอย่างเข้มงวดได้ช่วยให้เวียดนามสามารถควบคุมการระบาดในครั้งก่อนหน้า แต่เวลานี้เวียดนามกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อรอบใหม่หลังไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศมานานกว่า 3 เดือน
การระบาดรอบใหม่นี้ทำให้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 220 คน นับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.เป็นต้นมา โดยส่วนใหญ่อยู่ในเมืองดานัง และแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างน้อย 8 เมืองและจังหวัด รวมทั้งกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ที่ได้สั่งปิดสถานบันเทิงและห้ามการรวมกลุ่มเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
เมืองดานัง และเมืองบวนมาถวต ที่ตั้งอยู่ในเขตที่สูงตอนกลางและเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของประเทศ อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ โดยโฆษกรัฐบาลกล่าวเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า ทางการยังไม่มีแผนที่จะล็อกดาวน์ทั้งประเทศ
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันอังคาร (4) ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับการระบาดในดานัง ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุข และมีประชาชนถูกกักตัวกว่า 133,000 คน โดยประมาณ 80% เป็นการกักตัวอยู่ในบ้านตัวเอง
สำหรับประชาชนมากกว่า 88,000 คน ที่เดินทางกลับกรุงฮานอยจากเมืองดานัง ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. ได้รับการตรวจเชื้อไปแล้วประมาณ 70,000 คน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ แต่ชุดตรวจโควิดแบบเร็วหมดลงในบ่ายวันจันทร์ (3) ทำให้ประชาชนอีกประมาณ 18,000 คน ยังไม่ได้รับการตรวจ
ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าวว่า กรุงฮานอยมีชุดตรวจโควิดประมาณ 100,000 ชุด และใช้ไปเมื่อต้นปีแล้วประมาณ 20,000 ชุด
“จำนวนคนที่รับการตรวจคัดกรองมากเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ เราขอแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบสุขภาพของตนเอง หากมีอาการ เช่น ไอ มีไข้ หรือหายใจลำบาก ต้องไปสถานพยาบาลทันที” เจ้าหน้าที่ กล่าว
ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร็วสามารถวินิจฉัยตัวอย่างเลือดได้ในเวลาไม่กี่นาที แต่มีแนวโน้มที่จะไม่แม่นยำ หากชุดตรวจเหล่านี้แสดงผลเป็นบวก จะต้องยืนยันผลอีกครั้งด้วยการตรวจหาเชื้อในทางเดินหายใจ (PCR) ที่มีความถูกต้องแม่นยำสูงกว่า
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 4 สิงหาคม 2563