บีโอไอเดินหน้าซัพคอนไทยแลนด์ คาดจับคู่ธุรกิจ4พันคู่เงินสะพัด7พันล.

บีโอไอ จับมือ อินฟอร์มาฯ จัดงาน ซับคอน ไทยแลนด์ – อินเตอร์แมค แสดงสินค้าเครื่องจักรอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ ครั้งใหญ่ พร้อมจับคู่ธุรกิจผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมไทย คาดเกิดการจับคู่ธุรกิจ 4 พันคู่ มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท
 
นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ ได้ร่วมกับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน ซับคอน ไทยแลนด์ คู่ขนานไปกับ งานอินเตอร์แมค งานแสดงสินค้าภาคอุตสาหกรรมแบบครบวงจรครั้งยิ่งใหญ่ ที่รวมความก้าวหน้าด้าน เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ครบวงจรที่สุด รวมทั้งเครื่องจักรอัตโนมัติ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และงานจับคู่ธุรกิจครั้งสำคัญแห่งปี โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ก.ย. นี้ ที่ไบเทคบางนา
 
โดยการจัดงานในครั้งนี้ งานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจชั้นนำระดับภูมิภาค รวบรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมคุณภาพกว่า 200 ราย ผู้ผลิตชิ้นส่วนงานโลหะ พลาสติกและยาง ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ผลิตและให้บริการในอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ โดยในปีนี้ บีโอไอ ได้เชิญผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศเข้ามาร่วมงานพร้อมจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ไว้รองรับผู้ซื้อต่างชาติในปีนี้อีกด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดงานพอสมควร โดยในปีที่ผ่านมามียอดจัดคู่ธุรกิจกว่า 8 พันคู่ ในปีนี้ลดเป้าหมายลงเหลือประมาณ 4 พันคู่ ส่วนยอดขายในปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 7 พันล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ภาคการผลิตทั่วโลกเกิดการชะงักงัน ทำให้ภาคการผลิตฟื้นกลับขึ้นมาได้เพียง 50%
 
“ในปีนี้การจับคู่ธุรกิจจะเน้นผู้ประกอบการภายในประเทศและอาเวียน โดยเฉพาะเวียดนาม โดยจะเชิญผู้ซื้อจากเวียดนามทั้งที่เป็นโรงงานของชาวต่างชาติ ของคนไทยที่เข้าไปตั้งโรงงานในเวียดนาม และผู้ประกอบการชาวเวียดนามให้เข้ามาซื้อชิ้นส่วนสินค้าอุตสาหกรรมจากงานครั้งนี้มากขึ้นคู่ขนาดกับการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ที่จะมีห้องส่วนตัวให้ผู้ซื้อจากประเทศที่อยู่ใกล่ไม่สามารถมาไทยได้ให้เจรจาธุรกิจผ่านระบบออนไลน์กับผู้ผลิตชิ้นส่วนชาวไทย”
 
นอกจากนี้ ผลจากโควิด-19 ยังส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนระบบซัพพลายเชน ทำให้ชาวต่างชาติและโรงงานภายในประเทศหันมาซื้อชิ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาแหล่งผลิตต่างชาติ หากโควิด-19 ยืดเยื้อ หรือเกิดโรคระบาดรอบใหม่ ก็จะกระทบต่อการขนส่งชิ้นส่วนข้ามประเทศ
 
นางสาวซ่อนกลิ่น กล่าวว่า โควิด-19 ยังได้เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี หันมาใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากขึ้น เพราะหากมีแรงงานในโรงงานติดโควิด-19 1 คน ก็ต้องหยุดผลิตทั้งโรงงาน 
 
ดังนั้นหากปรับเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงโรคระบาดในกลุ่มแรงงาน และยังช่วยลดต้นทุนค่าจ้างได้ในระยะยาว และเพิ่มประสิทิภาพการผลิตได้มากขึ้น ซึ่งภายในงานครั้งนี้ ก็จะมีเจ้าของแบรนด์เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เข้ามาจัดแสดงสินค้าใหม่ๆที่มีข้อเสนอที่ดีให้กับลูกค้า
 
“ในปัจจุบันราคาหุ่นยนต์ได้ลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหุ่นยนต์จากจีนที่มีราคาไม่แพง แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งภายในงานจะมีผู้เชี่ยวชายในการวางระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาให้คำปรึกษา เพื่อคำนวณต้นทุน การช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาการคืนทุนที่เหมาะสม ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่โรงงานเอสเอ็มอีจะเร่งปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยลดต้นทุนได้ในระยะยาว”
 
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 12 สิงหาคม 2563

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)