กรมอุตสาหกรรมและการค้านครโฮจิมินห์ได้เสนอโครงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของนครภายในปี 2568 โดยจะก่อสร้างศูนย์โลจิสติกส์ 7 แห่งในเขต 9, Thu Duc, Binh Chanh, Nha Be และ Cu Chi และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของนครฯ ใหม่ทั้งหมด รวมทั้งเร่งดำเนินการสร้างถนนเชื่อมต่อกับจังหวัดอื่นๆ ที่ล่าช้ากว่ากำหนดเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงติดขัด 

 

นอกจากนี้ จะพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางทางทะเลและทางรางอีกด้วย โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เงินทุนประมาณ 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2563-2573 สำหรับการพัฒนาโลจิสติกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการฝึกทักษะแรงงาน โดยจะเน้นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจด้านโลจิสติกส์ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายให้ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ในนครเติบโตร้อยละ 15 ต่อปีภายในปี 2578 และร้อยละ 20 ในห้าปีถัดไป รวมถึงคาดว่าจะลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ลงร้อยละ 15 ภายในปี 2568

 

ภาคโลจิสติกส์ในนครโฮจิมินห์มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยมีธุรกิจทั้งสัญชาติเวียดนามและต่างชาติกว่า 4,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี สมาคมโลจิสติกส์เวียดนามเห็นว่า โกดังสินค้ากว่า 1,500 แห่งในนครมีขนาดแตกต่างกันและถูกพัฒนาอย่างไม่เป็นระบบ อีกทั้งมีประสิทธิภาพการใช้งานต่ำ 

 

นอกจากนี้ ท่าเรือต่างๆ ของนครยังขาดการเชื่อมโยงที่ดีและมีทางเข้าแคบจึงรับเรือขนาดใหญ่ได้จำนวนจำกัด อาทิ ท่าเรือ Cat Lai บนแม่น้ำด่งนายมักเกิดการจราจรติดขัด ส่วนท่าเรือ Hiep Phuoc บนแม่น้ำ Soai Rap มีขนาดเล็กและตั้งอยู่กระจัดกระจาย นอกจากนี้ ท่าอากาศยาน Tan Son Nhat ก็มีปัญหาด้านการจราจรเนื่องจากมีความสามารถในการรองรับอย่างจำกัด

 

ที่มา Royal Thai Consulate-General, Ho Chi Minh City, Vietnam

วันที่ 10 ธันวาคม 2563