สำนักงานสถิติแห่งชาติ เวียดนาม (GSO) ประกาศว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของเวียดนามเติบโตร้อยละ 2.91 ในปี 2020 ท่ามกลางผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

 

สำนักงานฯ กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังถือเป็น “ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่” ของประเทศ โดยเศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวร้อยละ 4.48 ในไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ และข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนสิงหาคม

 

ภาคการเกษตร ป่าไม้ และการประมง เติบโตร้อยละ 2.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างเติบโตร้อยละ 3.98 ส่วนภาคการบริการเติบโตร้อยละ 2.34 ซึ่งทั้งหมดมีส่วนส่งเสริมการเติบโตโดยรวมที่ร้อยละ 13.5 ร้อยละ 53 และร้อยละ 33.5 ตามลำดับ

 

อนึ่ง จีดีพีเวียดนามเติบโตร้อยละ 7.02 ในปี 2019 ซึ่งสูงเกินเป้าหมายประจำปีที่ตั้งไว้ร้อยละ 6.6-6.8

รายงานจากธนาคารโลก (World Bank) เมื่อไม่นานนี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตราวร้อยละ 6.8 ในปี 2021 และจะคงที่ที่ราวร้อยละ 6.5 หลังจากนั้น

 

แผนการที่สภานิติบัญญัติระดับสูงของเวียดนามเพิ่งอนุมัติเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าเวียดนามจะมุ่งมั่นบรรลุการเติบโตของจีดีพีที่ราวร้อยละ 6 ในปี 2021 พร้อมกับต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำนักงานฯ เสริมว่าแม้การระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการค้าโลก แต่เวียดนามมีรายได้ทางการค้า 5.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 16.38 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากปีก่อน และมีการค้าเกินดุลถึง 1.91 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016

 

ที่มา BUSINESSTODAY

วันที่ 28 ธันวาคม 2563