การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในรอบ 1 ปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการส่งออกที่เดิมเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคมีข้อจำกัด จึงทำให้เหลือเครื่องยนต์การลงทุนที่รัฐบาลเร่งสนับสนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้

 

การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 7 ก.พ.2564 มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทย 237 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวัง 113 คน เป็นผู้ป่วยจากการค้นห้าผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 112 คน และเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศที่เข้าสถานกักกันตัวที่รัฐจัดให้ 12 คน รวมแล้วประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อ 23,371 คน โดยนับตั้งแต่พบการระบาดรอบใหม่ในประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับหลักร้อยมาต่อเนื่องแม้ว่าจำนวนที่ติดเชื้อจะมีแนวโน้มลดลง

 

ในขณะที่การระบาดที่เกิดขึ้นในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประมาณการจีดีพี ปี 2563 จะติดลบ 6% ถึงแม้ว่าจะเป็นประมาณการที่ดีขึ้นจากการระบาดช่วงแรกที่คาดว่าจะติดลบถึง 7.5% แต่ถือได้ว่าติดลบน้อยลงแต่ก็ยังอยู่สถานการณ์วิกฤติ และเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำที่สุดไปแล้วหลังจากไตรมาส 2 ปี 2563 เศรษฐกิจติดลบถึง 12.2% ซึ่งเป็นไตรมาสที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด แต่หลังจากนั้นเศรษฐกิจรายไตรมาสเริ่มติดลบน้อยลง

 

ที่ผ่านมาเศรษฐกิจมีแรงผลักดันจากการส่งออกในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และทำให้การส่งออกสินค้าไทยปีที่แล้วติดลบ 6.01% ถึงแม้การส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วจะติดลบน้อยลง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชย ในขณะที่การส่งออกในปี 2564 ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นจากที่แล้ว 4% แต่อยู่บนปัจจัยเสี่ยงของการกระจายวัคซีนทั่วโลกได้มากแค่ไหน รวมถึงสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าและปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน

 

ส่วนการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องจักรหลักอีกตัวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเป็นที่แน่นอนว่าปี 2564 จะยังไม่มีการฟื้นตัว เพราะการเดินทางระหว่างประเทศยังทำได้จำกัด โดยผู้ที่เดินทางมาจากการต่างประเทศต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวในสถานที่รัฐจัดไว้ 14 วัน โดยในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 6.4 ล้านคน ในขณะที่ปี 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 10 ล้านคน แต่ก็เป็นเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2562 จึงทำให้การท่องเที่ยวยังไม่ใช่เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้

 

สำหรับเครื่องยนต์การบริโภคดูจะมีข้อจำกัดในการผลักดันเศรษฐกิจปีนี้ เพราะต้องใช้งบประมาณกระตุ้นการบริโภคผ่านมาตรการรัฐในกลุ่มมาตรการเยียวยา ซึ่งได้ใช้งบประมาณไปจำนวนมากกับหลายโครงการ เช่น เราไม่ทิ้งกัน เราชนะ คนละครึ่ง จึงทำให้เหลือเครื่องยนต์การลงทุนที่รัฐบาลเร่งเตรียมแผนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เกิดการระบาดรอบใหม่ในประเทศไทย และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วรัฐบาลจึงควรเร่งรัดการลงทุนทั้งการลงทุนภาครัฐและการชักจูงจากลงทุนจากเอกชนไทยและต่างชาติให้ช่วยเป็นแรงสนับสนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564