เซ็นทรัลโหมลงทุนเวียดนามกรุยทางแบรนด์ไทยปักหมุด ศูนย์กลางใช้ชีวิต
ศักยภาพ"เวียดนาม"เสือเศรษฐกิจที่แข็งแรงแห่งภูมิภาคอาเซียน ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก รวมทั้ง "ไทย" ดาหน้าปักหมุดขยายอาณาจักรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่มเซ็นทรัล ทุนค้าปลีกไทยยักษ์ใหญ่ยกทัพกิจการในเครือประกาศตัวสร้างศูนย์กลางใช้ชีวิตของชาวเวียดนาม!
“เวียดนาม” เป็นหนึ่งในฐานธุรกิจใหญ่ของ “กลุ่มเซ็นทรัล” แห่งตระกูลเจ้าสัว “จิราธิวัฒน์” เข้าปักหมุดมานานกว่า 9 ปี สร้างพอร์ตรายได้ร่วม 4 หมื่นล้านบาท! เปรียบได้กับ “บ้านหลังที่ 2” ในการสร้างอาณาจักรค้าปลีกและกิจการหลากหลายในเครือ รับศักยภาพประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ที่เป็นดาวรุ่งทางเศรษฐกิจเหนือใครในภูมิภาคอาเซียน
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์ของเซ็นทรัลรีเทล ที่ต้องการนำ “แบรนด์ไทย” ออกไปขยายธุรกิจในตลาดสากล!
เวียดนาม เป็นเสือเศรษฐกิจที่แข็งแรงแห่งภูมิภาคอาเซียน มีศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในด้านเศรษฐกิจ มีประชากรจำนวนมาก ซึ่ง 65% เป็นประชากรวัยทำงานและมีกำลังซื้อสูงขึ้นตามสัดส่วนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามมีความพร้อมรองรับการขยายการลงทุนสูง
โอกาสในการต่อยอดธุรกิจในเวียดนาม ยังเป็นผลมาจากนโยบายสำคัญของภาครัฐที่ทำให้เวียดนามเติบโตก้าวกระโดดในหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นโยบายลดภาษีสินค้านำเข้าให้เหลือ 0% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง สินค้าที่ผลิตในประเทศราคาดี สามารถแข่งขันด้านราคากับประเทศอื่นได้ นโยบายส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) สนับสนุนให้บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูล ณ ธ.ค.2563 เวียดนาม มีมูลค่าเงินลงทุนโดยตรงสุทธิสะสมกว่า 28,530 ล้านดอลลาร์ เป็นการลงทุนในธุรกิจการผลิต 13,600 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,200 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจค้าปลีก 1,600 ล้านดอลลาร์ นโยบายข้อตกลงด้านเขตการค้าเสรี (Free Trade Area-FTA) ร่วมกับนานาประเทศ อาทิ อังกฤษ สหรัฐ และสหภาพยุโรป รวมกว่า 60 ประเทศเศรษฐกิจทั่วโลก! เพิ่มข้อได้เปรียบและโอกาสในการขยายตลาดการค้าระหว่างประเทศ
การเข้าลงทุนกว่า 9 ปีในเวียดนามของกลุ่มเซ็นทรัล ยึดหลักพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคม มุ่งสู่ ศูนย์กลางชีวิต (Central of Life) ของชาวเวียดนามทุกคน มีการจัดกิจกรรมสร้างคุณค่าร่วมและกิจกรรมเพื่อสังคม 7 ด้านหลัก ได้แก่ การศึกษา, คุณภาพสิ่งแวดล้อม, ความเป็นอยู่ที่ดี, ส่งเสริมเกษตรกรรม, พัฒนาชุมชน, ส่งเสริมการค้าผ่านงานประจำปี Vietnamese Week ที่ประเทศไทย และงาน Made in Vietnam ในเวียดนาม และ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยสนับสนุนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนและการขจัดความยากจนของรัฐบาลเวียดนาม
"การให้ความสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้ประเทศที่เราดำเนินการอยู่ จะทำให้เราเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน ซึ่งในฐานะนักลงทุนต่างชาติ ความช่วยเหลือจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจท้องถิ่นและหน่วยงานรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการเจาะตลาด"
เซ็นทรัลรีเทลในเวียดนามได้สร้างธุรกิจหลากหลายรูปแบบ (Multi-category) ทั้งอาหาร (Food) ไม่ใช่อาหาร (Non-Food) และอสังหาริมทรัพย์ (Property) ซึ่งกลุ่มอาหารเป็นพอร์ตหลัก! ควบคู่การสร้างแพลตฟอร์มที่หลากหลาย (Multi-platform) เพื่อครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกพื้นที่ ทั้งในเมือง ชานเมือง และชนบท
โดยเซ็นทรัลได้ร่วมทุนกับ “Lanchi Mart” เพื่อขยายธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ชานเมืองและชนบท และร่วมทุนกับร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า “Nguyen Kim” เพื่อสร้างความหลากหลายให้ธุรกิจที่ไม่ใช่อาหาร การนำโมเดลที่ประสบความสำเร็จจากกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ในไทยอย่าง “โรบินสัน ไลฟ์สไตล์” มาสร้างเป็นโมเดลใหม่และปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนาม เกิดเป็นศูนย์การค้า GO! ที่เจาะตลาดลูกค้าในเมืองและชานเมือง
ปัจจุบันเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามของกลุ่มเซ็นทรัลมีศูนย์การค้า 37 แห่ง ร้านค้ากว่า 230 สาขา ครอบครองพื้นที่กว่า 1 ล้านตร.ม. ใน 39 จังหวัดทั่วประเทศ รองรับลูกค้ากว่า 1.75 แสนรายต่อวัน
แผนธุรกิจปี 2564 เซ็นทรัล รีเทล จะใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา เดินหน้าพัฒนาและปรับโฉมภาคธุรกิจการค้าและรีเทลของเวียดนามให้ทันสมัยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ จะมีการเปิดศูนย์การค้า GO! 4 แห่ง ธุรกิจอาหาร มีแผนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! เพิ่ม 4 แห่ง รีแบรนด์ Big C เป็น GO! 8 แห่ง และเปิดตัว “ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต” ในส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่อาหารจะขยายให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่มาจากการขยายตัวของเมือง
สำหรับ ปี 2563 ได้เปิดศูนย์การค้า GO! เพิ่ม 4 แห่ง ที่เมืองจ่าวิญ, กว๋างหงาย, บวนมาถ็วต, และเบิ๋นแจร รีแบรนด์บิ๊กซี Big C เป็น GO! พร้อมเปิดเพิ่มอีก 4 สาขา และเปิดซูเปอร์มาเก็ต go! สาขาแรกที่เมืองตามเก่ย จังหวัดกว๋างนาม
เซ็นทรัล รีเทล วางแผนระยะยาวมุ่งขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 55 จังหวัดทั่วประเทศภายใน 5 ปี โดยเม็ดเงินลงทุน “1ใน3” จะถูกนำมาลงที่ตลาดนี้!
พันธมิตรรัฐ-เอกชน หนุนเซ็นทรัลรีเทลเคลื่อนทัพขยายตลาด
ฟิลิปป์ ฌอง โบรยานิโก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม กล่าวว่า ความท้าทายของธุรกิจในเวียดนาม คือ กระบวนการในการเข้าถือครองสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่ต้องแข่งกับนักลงทุนในท้องถิ่น รวมถึงด้านโลจิสติกส์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามไม่เอื้อต่อระบบขนส่งมากนัก! รวมทั้งการเข้าถึงแรงงานในประเทศ แม้ว่าประชากรแรงงานส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาในระดับสูง แต่อุตสาหกรรมค้าปลีกยังไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนกลุ่มนี้เท่าที่ควร!
กลยุทธ์ของ เซ็นทรัล รีเทล ที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ คือ การร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นและหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล ทำงานตรงกับหน่วยงานของรัฐบาลเวียดนามทุกระดับตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงภูมิภาค และเครือข่ายพันธมิตรท้องถิ่น ทำให้บริษัทมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาล และพร้อมที่จะสนับสนุนการจัดหาพื้นที่ทำธุรกิจให้ ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลเป็น “ค้าปลีกต่างชาติ” ที่มาลงทุนในเวียดนามเจ้าเดียวที่สามารถเปิดตัวศูนย์การค้า 4 แห่งได้สำเร็จในปี 2563 ที่ผ่านมา
นอกเหนือจากการขยายสาขา (ออฟไลน์) เซ็นทรัลรีเทล ยังมุ่งพัฒนาช่องทาง “ออมนิแชนแนล” ให้เป็นแพลตฟอร์มที่รองรับธุรกิจรีเทลหลากหลายรูปแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์ค้าปลีก รวมถึงการขายบนช่องทาง “ออนไลน์” และทางโทรศัพท์ ผ่านบริการ “Click and Collect” การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค เช่น Grab, Zalo, Now.vn. และ Beamin ในการอำนวยความสะดวกและให้บริการที่รวดเร็วและราบรื่นสำหรับลูกค้า
"การดำเนินธุรกิจในเวียดนาม นักลงทุนไทยควรยึดถือหลักการทำธุรกิจโดยมุ่งสร้างความเจริญ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชาวเวียดนาม รวมถึงต้องทำความเข้าใจความแตกต่างทางด้านระบบกฎหมาย วัฒนธรรม และความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างความสะดวก สบาย และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้ลูกค้าในทุกสถานการณ์”
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564