1 ตุลาคม ไทยพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว ปลุกเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อน

 

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการปาฐกถาบนเวทีสัมมนา “ปลดล็อก ‘กัญชง-กัญชา’ ปลุกเศรษฐกิจ รวย” จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า ไทยจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ เพราะวันที่ 1 ตุลาคมนี้จะเป็นวันที่เราเปิดประเทศ จากแผนทดสอบวัคซีน ที่เดินหน้ามาเกือบครบ ทำให้ไทยรับรองผู้ที่ฉีดวัคซีนได้ 

 

เราต้องตกลงกับคนต่างประเทศว่ารับรองคนที่ฉีดวัคซีน ตกลงกับทวิภาคีหรือตกลงในกลุ่มอาเซียน ซึ่งประเทศที่มีการฉีดวัคซีนเยอะมากที่สุด คือ ประเทศอิสราเอล  เกาหลีใต้ หากเราตกลงกันได้ ก็อาจจะเป็นทำบับเบิลในการจับคู่ได้

 

วันนี้กระทรวงสาธารณะสุข ได้รับซีนที่ 2 จำนวน 8 แสนโดส เรียบร้อยแล้ว เราได้รับงวดที่ 2 เร็วกว่ากำหนด กำลังจะได้รับเดือนเมษายนนี้ 1 ล้านโดส ล็อตใหญ่จะมาประมาณเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเราพยายามที่จะบอกว่าวัคซีนทุกตัวมีความปลอดภัย เพียงแต่ว่าเราจะต้องติดตามผลข้างเคียงในการฉีดวัคซีน

 

โดยการเดินหน้าฉีดวัคซีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดแล้วลดตัวเลขลง ซึ่งเป็นไปตามแผนหากฉีดวัคซีน 65 ล้านโดส ให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ เราเริ่มล็อตใหญ่มิถุนายน เราตั้งไว้ฉีดเดือนละ 10 ล้าน 6 เดือนจนถึงธันวาคม เราจะฉีดวัคซีนครบ ครอบคลุมประชากรประมาณ 40 ล้านคน

 

ในวันที่ 1 เมษายนนี้จะลดการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน เพื่อที่จะเปิดโอกาสรับนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุดเราจึงมั่นใจว่าถ้าเราเปิดประเทศจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามีความมั่นใจ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม มีอาหาร มีสมุนไพร ผลไม้อร่อยเมื่อท่องเที่ยวบริโภคอาหาร ก็มั่นใจว่าปลอดภัย เนื่องจากไทยเรามีระบบสาธารณสุขที่เลือกใช้บริการได้ แต่ทั้งหมดเกิดจากความเชื่อมั่นในระบบสาธารณะสุข

 

ในช่วงสถานการณ์โควิด ประเทศไทย ถูกจัดอันดับโดยนิตยสารซีอีโอ  สหรัฐอเมริกา ว่าระบบสาธารณสุขของไทย เป็นลำดับ 6 ของโลก เราชนะสเปน สวิตเซอร์แลนด์ นี่คือ มาตรฐานของการจัดชี้วัด 5 เกณฑ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกต่อสถานการณ์โควิด หลังจากสถานการณ์โควิด เราต่อสู้ในระลอกแรก ล็อกดาวน์มาตรการเข้มข้น มีผู้ติดเชื้อหลักสิบ มีผู้เสียชีวิตจำนวนน้อยมาก เราถูกจัดลำดับ 2 ของโลก ฟื้นจากโควิด

 

หลังจากนั้นสถานการณ์โควิดระลอกนี้ ตกจากอันดับ 2 มาเป็นลำดับ 4 แต่ในภาพรวมมีความมั่นใจว่าต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย ยกตัวอย่าง ในสถานการณ์โควิด คนที่เดินทางจากต่างประเทศมาประเทศไทย เราเรียกระบบนั้นว่า เป็นคนป่วยที่ต้องการมารักษากับโรงพยาบาลในประเทศไทย ในขณะที่เค้าไม่สามารถเดินทางได้ ต้องมากักตัว แต่ก็เลือกที่จะมาประเทศไทย ในขณะนั้นยังมีจำนวนมาก

 

ผมไปให้ความมั่นใจกับผู้ใช้บริการว่าในโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ ตัวเลขที่ต้องการมารักษา ในขณะเดียวกันสถานการณ์โควิด สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ลดการเสียชีวิต และฉีดวัคซีนไปด้วย ผมยังมีความมั่นใจว่าโอกาสที่จะมาประเทศไทยกับความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทยจะมีโอกาสมาก

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 25 มีนาคม 2564