คลองสุเอซกลับมาใช้งานได้แล้ว ขอเวลา 4 วัน ระบายเรือ 400 กว่าลำ
ภารกิจกู้เรือ Ever Given ประสบความสำเร็จวานนี้ (29 มี.ค.) แต่การระบายเรือสินค้า-เรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมากกว่า 400 ลำที่รอคิวแล่นผ่านคลองสุเอซอาจต้องใช้เวลา 3-4 วัน
คลองสุเอซ กลับมาใช้งานได้อีกครั้งหลังปฏิบัติการขยับ เรือยักษ์ Ever Given พ้นการกีดขวาง ประสบความสำเร็จวานนี้ (29 มี.ค.) คาดว่า เรือสินค้า จำนวนนับร้อยที่ลอยลำรอคิวผ่านคลองสุเอซ จะสามารถแล่นผ่านเส้นทางการค้าที่สำคัญนี้ราว 113 ลำในช่วงเช้าวันอังคารนี้ (30 มี.ค.) รวมทั้งขาขึ้นและขาล่อง
นายโอซามา ราบี ประธาน องค์การบริหารจัดการคลองสุเอซ (SCA) ประมาณการว่า ต้องใช้เวลาราว 3 วันครึ่งถึง 4วัน ในการทยอย ระบายเรือสินค้า จำนวน 422 ลำที่รอคิวผ่านคลองสุเอซอยู่ในเวลานี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือสินค้าขนาดใหญ่ความยาว 400 เมตรที่ชื่อว่า Ever Given (เอเวอร์ กิฟเว่น) ได้ประสบอุบัติเหตุเกยตื้นทแยงขวางคลองสุเอซในประเทศอียิปต์ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญของโลกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 มี.ค.) ทำให้การสัญจรผ่านเส้นทางนี้ถูกปิดกั้นอย่างสิ้นเชิงก่อให้เกิดเรือสินค้ารอผ่านสะสมมากกว่า 400 ลำดังกล่าวข้างต้น จนกระทั่งทีมกู้เรือสามารถขยับเรือ Ever Given ให้ลอยลำอีกครั้งและถูกจูงลากออกพ้นการกีดขวางเมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.)
ด้านบริษัทเอเวอร์กรีน ไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือสัญชาติไต้หวันที่เช่าเรือยักษ์ลำนี้มาใช้บริการบรรทุกสินค้าระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเรือ Ever Given ไปตรวจสอบสภาพว่ายังสามารถใช้เดินเรือในมหาสมุทรได้อยู่หรือไม่ ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นนั้น เรือสามารถขับเคลื่อนได้แล้วในระยะจำกัดและยังพบว่าตู้คอนเทนเนอร์สินค้าทุกตู้บนเรือไม่มีตู้ใดได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการตรวจสอบดดยละเอียด และหากมีสิ่งใดได้รับผลกระทบหรือเป็นความเสียหาย ทาง SCA จะเปิดเผยรายงานให้ทราบ
นายปีเตอร์ เบอร์ดาวสกี ซีอีโอ บริษัท บอสคาลิส (Boskalis) เจ้าของบริษัท Smit Salvage ซึ่งบริษัทผู้เชี่ยวชาญการกู้เรือจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เข้ามาดูแลภารกิจกู้เรือขวางคลองสุเอซครั้งนี้ร่วมกับทีมของของ SCA เปิดเผยว่า เงื่อนไขของเวลาที่กดดันอย่างมากทำให้ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นภารกิจใหญ่อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน มีการขุดลอกดินทรายริมตลิ่งคลองสุเอซออกไปราว 30,000 ลูกบาศก์เมตรเพื่อให้เรือยักษ์น้ำหนัก 224,000 ตันที่เกยติดอยู่สามารถเคลื่อนหลุดลอยลำได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังต้องใช้เรือลากจูงขนาดทั่วไป 11 ลำและเรือลากจูงขนาดใหญ่แรงดึงสูงอีก 2 ลำ ช่วยกันดึงเรือ Ever Given ให้หลุดออกมา
บริษัท เบิร์นฮาร์ด ชูลเทอ ชิปแมเนจเมนท์ (BSM) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เปิดเผยว่า ไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและความเสียหายต่อสินค้าบนเรือ Ever Given จากเหตุการณ์ในครั้งนี้
สถานีโทรทัศน์ไนล์ทีวีของอียิปต์ รายงานว่า ในบรรดาเรือสินค้ามากกว่า 400 ลำที่ลอยลำรอคิวแล่นผ่านคลองสุเอซในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว
“ภายในเวลา 4 วันทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ เราจะทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อระบายเรือที่รอคิวสัญจรเหล่านี้” ผู้บริหารของ SCA ระบุ พร้อมทั้งประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดคำถามว่า คลองสุเอซเหมาะสมที่จะรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ยักษ์เหล่านี้หรือไม่ ซึ่งคำตอบก็คือ เรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเหล่านี้เคยใช้บริการของคลองสุเอซมาเนิ่นนานและสามารถแล่นผ่านได้โดยปลอดภัยมาตลอด ดังนั้น SCA ไม่มีแผนจะเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆเกี่ยวกับการรองรับเรือขนาดใหญ่เหล่านี้
ด้านบริษัทเมิร์สค์ ที่เป็นหนึ่งในบริษัทเดินเรือที่ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปเพื่อหลีกเลี่ยงการติดขัดบริเวณคลองสุเอซแม้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและต้องใช้เวลาเดินเรือเพิ่มมากกว่าเดิม 2 สัปดาห์ ให้ความเห็นว่า บรรดาเรือสินค้าที่ติดขัดอยู่นั้นคงต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ๆ ในการสะสางเรื่องการส่งมอบสินค้าที่จะต้องล่าช้าไปกว่ากำหนด
ข่าวระบุว่า เจ้าของหรือผู้เช่าเรือบรรทุกสินค้าที่ประสบภาวะล่าช้าอาจจะต้องจ่ายเงินชดเชยความเสียหาอย่างน้อย 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไม่สามารถเรียกจากบริษัทประกันภัยได้ ทั้งยังอาจมีความเสียหายอื่น ๆที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขการประกัน
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 30 มีนาคม 2564