FDI ในเวียดนามช่วง 3 เดือนแรกปี 64 โต 18.5% มูลค่ากว่า 3 แสนล้าน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้นำ 3 อันดับแรก แต่มีโครงการลงทุนใหม่ลดลงจากผลกระทบโควิด

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลสื่อของเวียดนามว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ขอเวียดนามในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่ารวม 10,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 3.03 แสนล้านบาท คำนวณที่ 30 บาทต่อดอลลาร์)เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

กรมการลงทุนต่างประเทศภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุนระบุว่า การลงทุนได้ไหลเข้าสู่ 17 ธุรกิจ โดยภาคการผลิตมีโครงการลงทุน FDI มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 49.6 สิงคโปร์เป็นนักลงทุนชั้นนำด้วยเงินทุนประมาณ 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วยญี่ปุ่น 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ เกาหลีใต้ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตามในจำนวนการลงทุนดังกล่าวเป็นโครงการใหม่มีเพียง 234 โครงการ ลดลงร้อยละ 69.1 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังคงจำกัดการเดินทางและนักลงทุนรอดูสถานการณ์

 

โครงการสำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิง LNG Long An 1 และ 2 มูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจังหวัด Long An (ทางตอนใต้) ของเวียดนาม โดยการร่วมทุนระหว่าง GS Energy ของเกาหลีใต้และบริษัทจัดการกองทุน VinaCapital โรงไฟฟ้า พลังความร้อน O Mon 2 มูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเมือง Can Tho (ทางตอนใต้) ของเวียดนาม โดยการร่วมทุน ระหว่าง Vietnam Trading Engineering Construction JSC และ Marubeni Corporation ของญี่ปุ่นและการปรับเพิ่มเงินทุน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโรงงานที่มีอยู่ของ LG Display ในจังหวัด Hai Phong

 

ขณะที่ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564 โครงการ FDI เบิกจ่ายเงินทุนมูลค่า 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อนขณะที่ปี 2563 การลงทุน FDI ของเวียดนามมีมูลค่า 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 25

 

สคต. ณ กรุงฮานอย ระบุว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนาม อย่างไรก็ดี เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจในด้านการลงทุนในเอเชีย ขณะเดียวกันบริษัทข้ามชาติกำลังพิจารณาที่จะย้ายฐานการผลิต ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเวียดนามในการต้อนรับโครงการลงทุนใหม่ เพื่อเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ซึ่งจะเป็นโอกาสำหรับนักลงทุนของไทยเช่นกันในการพิจารณาเข้ามาลงทุนในเวียดนาม เพื่อใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าต่าง ๆ ที่เวียดนามลงนาม

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 3 เมษายน 2564