“เหงียน ซวน ฟุก” จาก “นายกรัฐมนตรีปราบโควิด” สู่ “ประธานาธิบดี” เวียดนาม

นายเหงียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการจัดการการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาของเวียดนาม ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม หลังจากสมัชชาแห่งชาติมีมติแต่งตั้งให้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศ
 
นายเหงียนซวนฟุกเป็นนายกรัฐมนตรีของเวียดนามในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูและการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งในและต่างประเทศ
 
หลังจากการลงคะแนนลับเมื่อวันเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา นายเหงียนซวนฟุกได้คะแนนโหวตสูงสุดในบรรดาสมาชิกสภาแห่งชาติที่มีจำนวนเกือบ 500 คน โดยได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 97% ให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 11 นับตั้งแต่ปี 2488 เมื่อประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพเพื่อก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม
 
เวียดนามบริหารโดยพรรคคอมมิวนิสต์ (Communist Party of Vietnam:CPV) และนำโดยเลขาธิการใหญ่พรรคประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ การตัดสินใจสำคัญขึ้นอยู่กับสมาชิกกรมการเมือง 18 คน ขณะนี้เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านผู้นำที่กุมอำนาจมาสองทศวรรษ โดย นายเหงียนฝูจ่อง วัย 76 ปี ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 3 ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุดใน 3 เสาหลักการปกครองของเวียดนาม
 
นายเหงียนซวนฟุกเป็นผู้เดียวที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ในขณะที่นายเหงียนฝูจ่องซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2561 หลังจากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอาการป่วยของ พล.ต.อ. เจิ่นไดกวาง ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง
 
ก่อนหน้านี้สมัชชาแห่งชาติใหญ่ระบุว่านี่เป็น “ครั้งแรกที่มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี”
 
ในคำกล่าวสาบานตน นายเหงียนซวนฟุก สาบานว่า จะจงรักภักดีต่อชาติ ประชาชน และรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเต็มที่ และจะทำงานอย่างหนักเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประเทศและประชาชน
 
หลังจากสาบานตนแล้ว นายเหงียนซวนฟุกแถลงกับประชาชนว่า เขา “โชคดีและเป็นเกียรติ” ที่ได้รับตำแหน่งซึ่งตอนนี้เป็นรองเพียงแค่นายเหงียนฝูจ่อง ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด
 
โดยปกติแล้วผู้นำสมาชิกกรมการเมือง(Politburo)จะเกษียณอายุที่ 65 ปี แต่เวียดนามได้ปรับกฎเกณฑ์อายุของทั้งสองคน
นายเหงียนซวนฟุกเป็นหนึ่งใน “กรณีพิเศษ” ซึ่งมีอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้โดยคณะกรรมการกลางพรรค ที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นคณะกรรมการกลางพรรคคนที่ 13 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
 
นายเหงียนคักซาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเวียดนาม จากมหาวิทยาลัยวิกตอเรียแห่งเวลลิงตัน ของนิวซีแลนด์ ให้ความเห็นว่า การเลือกเหงียนซวนฟุกเมื่อวันที่ 5 เมษายน นับว่าเป็น “รางวัลที่เขาสมควรได้รับ” สำหรับผลงานทางเศรษฐกิจและสำหรับการตอบสนองต่อโควิด-19 ของเวียดนามที่ประสบความสำเร็จ
 
แม้ตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีบทบาททางพิธีการเป็นส่วนใหญ่ “ตอนนี้นายเหงียนซวนฟุกจะเป็นสมาชิกอันดับสองในพรรค ซึ่งมีน้ำหนักมากพอที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค หากนายเหงียนฝูจ่องต้องลงจากตำแหน่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้” เหงียนคักซางกล่าว
 
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของเหงียนฝูจ่อง หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานหนึ่งเดือนในปี 2562
 
นายเหงียนคักซางกล่าวว่า ประสบการณ์ของนายเหงียนซวนฟุก ในเรื่อง “การจัดการความสัมพันธ์ของเวียดนามกับสหรัฐฯ อย่างดีภายใต้การบริหารที่ปั่นป่วนของโดนัลด์ ทรัมป์” จะป็นประโยชน์ต่อหน้าที่ด้านการต่างประเทศในฐานะประธานาธิบดี
 
ภายในวันเดียวกับที่รับตำแหน่งประธานาธิบดี นายเหงียนซวนฟุกได้ประกาศแต่งตั้งนายฟามมีงจีง วัย 62 ปี อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
 
ตำแหน่งประธานาธิบดี ถือว่าเป็นตัวแทนระดับสูงของประเทศทั้งในด้านกิจการภายในและภายนอก และเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพ
 
นายเหงียนซวนฟุกเกิดวันที่ 20 กรกฎาคม 2497 ในจังหวัดกว๋างนามตอนกลาง เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวสต์ในเดือนพฤษาภาคม 2525 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์
 
นายเหงียนซวนฟุก เป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางชุดที่ 10, 11, 12 และ 13 และเป็นสมาชิกกรมการเมืองชุดที่ 11, 12 และ 13
 
ช่วงปี 2509-2511 ได้ไปยังค่ายปฏิรูป จากนั้นถูกนำไปทางตอนเหนือเข้าเรียนในระดับมัธยม ปี 1986-1972 เป็นเลขาธิการสหภาพเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Communist Youth Union) สาขาย่อยประจำโรงเรียน
 
ปี 2516-2520 เป็นนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์สาขาเศรษฐศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติฮานอย และยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหภาพเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Communist Youth Union)สาขาย่อย
 
ปี 2521-2522 ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการบริหารเศรษฐกิจจังหวัดกว๋าง นาม
 
ปี 2522-2536 ทำหน้าที่ในสำนักงานจังหวัดกว๋างนาม และเป็นกรรมการในคณะกรรมการประชาชนประจำจังหวัดดานัง และเข้าร่วมหลักสูตรการบริหารจัดการภาครัฐกับวิทยาลัยการปกครอง
 
ปี 2536-2539 รับหน้าที่ดูแลการท่องเที่ยวและผู้บริการสำนักงานวางแผนและพัฒนาจังหวัดดานัง
 
ปี 2540-2549 เป็นคณะกรรมการประจำสมัชชาจังหวัดกว๋างนามแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการประชาชาชนประจำจังหวัด และเป็นรองผู้ตรวจราชการของหน่วยตรวจราชการและประธานสำนักงานรัฐบาล และได้รับเลือกให้เข้าร่วมคณะกรรมการกลางของพรรคฯในการประชุมสมัชชาครั้งที่ 10
 
ปี 2550-2554 ได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางของพรรคฯ เป็นตัวแทนพพรคในรัฐบาลเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรค เป็นรัฐมนตรี เป็นประธานสำนักงานคณะรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานเฉพาะกิจของนายกรัฐมนตรีเพื่อการปฏิรูป
นายเหงียนซว
นฟุกได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีในปี 2554 และเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2559 และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางพรรคและสมาชิกกรมการเมือง
 
เวียดนามมีโครงสร้างผู้นำประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือเลขาธิการพรรค นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดีและประธานสมัชชาแห่งชาติ
 
ที่มา thaipublica
วันที่ 10 เมษายน 2564

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)