“โฮจิมินห์” เมืองหลวงเวียดนาม วางแผนตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้กับประชาชนทั้งหมด 13 ล้านคนที่อยู่ในเมือง หลังโควิดกลับมาระบาด พร้อมกับสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนสายพันธุ์อังกฤษ และอินเดีย

 

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นครโฮจิมินส์ เมืองหลวงประเทศเวียดนาม วางแผนตรวจเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนทั้งหมด 13 ล้านคนที่อยู่ในเมือง หลังพบคลัสเตอร์การระบาดตามงานที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนา รวมถึงได้ค้นพบการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมือนสายพันธุ์ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่อังกฤษ และอินเดีย

 

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า จากอัตราการตรวจผู้ติดเชื้อโดยเฉลี่ยประมาณแสนคนต่อวันในช่วงนี้ ทางการจะต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนจึงจะสามารถตรวจผู้ติดเชื้อครบ 13 ล้านคน ขณะเดียวกัน ล่าสุดเวียดนามพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศ 119 คน ภายในช่วง 24 ชั่วโมง ลดลงจากวันก่อนหน้า ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อมากถึง 512 คน โดยตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 7,168 คน และผู้เสียชีวิตอีก 47 คน

 

ถึงแม้เวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพช่วงปีทีผ่านมา แต่ล่าสุด การจัดอันดับของบลูมเบิร์ก ว่าด้วยการควบคุมสถานการณ์โควิด ประจำเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เวียดนามหล่นมาอยู่ที่อันดับ 23 ร่วงหล่นลงมาถึง 12 อันดับ หลังเดือนที่ผ่านมา โควิด-19 กลับมาระบาดภายในประเทศอีกครั้ง

 

นอกจากคลัสเตอร์ภายในเมืองหลวงประเทศแล้ว ก่อนหน้านี้ เวียดนามยังพบการระบาดของโควิด-19 ตามนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงาน 3 แห่งของบริษัท “ฟอกซ์คอนน์” ผู้ผลิตรายใหญ่ของบริษัทแอปเปิล อิงก์ จนทำให้ต้องปิดโรงงานชั่วคราว รวมทั้งพบการระบาดในโรงงาน “ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์” และ “แคนนอน” ด้วย

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564