ซีอีโอระดับโลกชี้ฉีด "วัคซีน" ดึงอุตฯท่องเที่ยวคืนชีพ
ขณะที่รัฐใหญ่อย่างแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศเปิดเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้ฉีดวัคซีนให้คนในรัฐอย่างทั่วถึง วานนี้ (17มิ.ย.) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นพ้องว่าควรเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพราะจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเดินทาง
ตามที่อุตสาหกรรมเดินทางและท่องเที่ยวทั่วโลกเสียหายอย่างหนักในปีที่ผ่านมา เนื่องจากโควิด-19 ระบาดทำให้ต้องปิดประเทศ ระงับการเดินทางระหว่างประเทศส่วนใหญ่หลายสายการบินยังต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ถึงตอนนี้การฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นแล้วโดยเฉพาะในประเทศตะวันตก หลายประเทศค่อยๆ ดำเนินการเศรษฐกิจและเปิดพรมแดนอีกครั้ง
"ริเทศ อการ์วัล" ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพโรงแรมราคาประหยัด “โอโย” ของอินเดีย เผยในเวที Evolve Global Summit ผ่านออนไลน์จัดโดยสำนักข่าวซีเอ็นบีซี เมื่อวันพุธ (16 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐว่า การฉีดวัคซีนเป็นหนทางเดียวที่ครอบคลุมที่สุดในการต่อสู้กับผลกระทบจากโควิด-19
“ผมเชื่อว่า การเดินทางจะกลับมา การเดินทางในประเทศจะฟื้นตัวก่อน แต่การฉีดวัคซีนจะเป็นทางออกเดียวที่ครอบคลุมและชัดเจนที่สุด” อการ์วัลกล่าวและว่า โอโย สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากซอฟท์แบงก์ มียอดจองในยุโรปสำหรับฤดูร้อนนี้เพิ่มขึ้นวันละสองเท่า โดยยุโรป เป็นภูมิภาคที่อัตราการฉีดวัคซีนค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจองห้องพักในโรงแรมที่พนักงานฉีดวัคซีนซึ่งโอโยมีประกาศนียบัตรแสดงว่าพนักงานของตนฉีดวัคซีนแล้ว
ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่น่ากังวล บางประเทศที่มีประชากรจำนวนมากในเอเชียกลับมีการฉีดค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับในยุโรปและสหรัฐ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Our World In Data ระบุว่า ถึงวันที่ 15 มิ.ย. ชาวอเมริกาเหนือ 40% ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ในยุโรปฉีดแล้ว 36% แต่ประชากรในเอเชียฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสเพียง 21% เท่านั้น กระนั้นอัตราการฉีดในภูมิภาคนี้กำลังเพิ่มขึ้น
สหรัฐเป็นประเทศอันดับ1 ที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรในสัดส่วนมากที่สุด ตามมาด้วยอันดับ 2 คือจีน โดยฉีดไปแล้วกว่า 74 ล้านโดส หรือประมาณ 2.7% ของประชากรทั้งประเทศ ตามมาด้วยอินเดีย ฉีดไปแล้ว 50 ล้านโดส หรือประมาณ 1.8% ของประชากรทั้งประเทศ
แต่ที่น่าสนใจคืออิสราเอล เป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมมากที่สุด โดยอิสราเอลฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปแล้ว 9.7 ล้านโดส แต่ครอบคลุมประชากรมากถึง 59.9% มากที่สุดในโลก ทิ้งห่างอันดับสองอย่างสหราชอาณาจักร ซึ่งฉีดวัคซีนไปประมาณ 30.2 ล้านโดส แต่ครอบคลุมประชากร 41.2%
"โทนี เฟอร์นันเดส" ผู้บริหารแอร์เอเชีย กล่าวว่า เขายังมีความหวังอย่างมากเรื่องอัตราการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการกระจาย ความต้องการ และตอนนี้ซัพพลายกำลังมีมาอย่างต่อเนื่อง เขาหวังว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่จะฉีดเข็มแรกให้ประชากร 60% ได้ภายในเดือน ก.ย.แต่เขาไม่ค่อยมั่นใจเรื่องโอกาสที่นานาชาติจะยอมรับพาสปอร์ตวัคซีน อันหมายถึงแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่บรรจุข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เพื่อยืนยันว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว
ความเห็นต่อวัคซีนพาสปอร์ตแบ่งเป็นสองฝ่าย นักวิจารณ์กังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะไม่ปลอดภัย เกรงว่าแอพพลิเคชั่นอื่นจะเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารแอร์เอเชียกล่าวว่า สิ่งที่อุตสาหกรรมการเดินทางต้องการคือกฎระเบียบที่แน่นอนสอดคล้องกัน
“ถ้าคุณฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกักตัว ดูเหมือนว่าระเบียบนี้แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ” โทนีกล่าวพร้อมเสริมว่าแต่ละประเทศควรยอมรับวัคซีนทุกตัวที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติแล้วด้วย
การเดินทางในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วในประเทศที่คุมการระบาดได้ค่อนข้างดีอย่างจีน จำนวนผู้ติดเชื้อยังค่อนข้างต่ำพร้อมๆ กับอัตราการฉีดขยับขึ้นทุกขณะ
ช่วงหยุดวันแรงงาน 5 วันในเดือน พ.ค. ประชาชนหลายล้านคนของจีนต่างเร่งเดินทาง ยอดจองโรงแรม รถเช่า และการเดินทางอื่นๆ เพิ่มสูงขึ้นมาก
"เจน ซัน" ซีอีโอ Trip.com เว็บไซต์จองการเดินทางของจีน เผยว่า เธอกำลังจับตาเทรนด์การท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวแรงมาก “เราเห็นความต้องการแข็งแกร่งโดยดูจากข้อมูลปริมาณการค้นหาในเว็บเรา”
ซัน อธิบายว่า เธอเห็นสามเทรนด์ยอดนิยมในหมู่คนที่กลับมาเดินทางอีกครั้งนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด เทรนด์แรก ลูกค้านิยมจองโรงแรม สายการบิน และทัวร์ท้องถิ่นที่จัดหาหน้ากาก เจลล้างมือ และบริการความปลอดภัยอื่นๆ เทรนด์ที่ 2 ตอนนี้ผู้คนเดินทางกลุ่มเล็กลงมาก และเทรนด์สุดท้าย พวกเขาเลือกแพ็กเกจที่ยืดหยุ่น อนุญาตให้เปลี่ยนแผน ยกเลิก หรือเลื่อนทริปได้
เฟอร์นันเดซ จากแอร์เอเชีย เห็นด้วยว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ผู้ให้บริการรวมถึงสายการบินราคาประหยัดต้องปรับตัวและเสนอเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้นให้กับนักเดินทาง แม้ว่านั่นอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่สมเหตุสมผลทางธุรกิจ
เฟอร์นันเดสให้เหตุผลว่า ความไม่แน่นอนมีสูงมาก แอร์เอเชียอาจนำนโยบายที่เข้มงวดขึ้นแบบสมัยก่อนมาใช้เมื่อการเดินทางแน่นอนมากกว่านี้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
ที่มา 18 มิถุนายน 2564