โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม 2565 กับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ
ขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการ ให้ข้อมูลโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเจ้าหน้าที่คุณมาดีจะลงพื้นที่เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2564
การแข่งขันด้านเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงด้วยหลากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น ทั้งภาวะความไม่แน่นอนทางด้านสังคม การเมือง รวมถึงวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ผู้ประกอบการและทุกภาคส่วนต้องมีการปรับตัวภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นข้อมูลและสถิติที่มีความถูกต้อง แม่นยำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดนโยบาย วางแผน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานของทั้งภาครัฐและเอกชน
“นางสาววันเพ็ญ พูลวงษ์” ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หัวเรือสำคัญในการจัดทำข้อมูลสถิติ มาร่วมพูดคุยถึงบทบาทของสำนักงานสถิติในการจัดทำข้อมูลสถิติด้านเศรษฐกิจ
ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้กล่าวถึงมูลค่าผลผลิตภาคการค้า การบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยในแต่ละปีมีมูลค่ามากกว่าร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และก่อให้เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน โดยธุรกิจที่มีจำนวนมากที่สุดได้แก่ ภาคการค้าและการบริการประมาณ 2 ล้านแห่งทั่วประเทศ รองลงมาคือภาคการผลิตประมาณ 5 แสนแห่งทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีการจ้างงานจำนวน 1 – 10 คน จากข้อมูลที่ดิฉันกล่าวมาแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ประกอบการขนาดเล็กมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้ภาครัฐกำหนดนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ การวิเคราะห์สถานการณ์ของภาคเอกชน และการตระหนักรู้ในสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจของภาคประชาชน สำนักงานสถิติแห่งชาติในฐานะองค์กรหลักในการจัดทำข้อมูลสถิติของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและจำเป็นในการผลิตข้อมูลสถิติที่มีคุณภาพ และ ได้จัดทำข้อมูลสถิติด้านเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน
โดยได้จัดทำสำมะโนอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 2507 และจัดทำสำมะโนธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการ ตั้งแต่ปี 2509 โดยในครั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ได้บูรณาการทั้ง 2 โครงการเข้าด้วยกัน ภายใต้ชื่อโครงการ “สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565” หรือเรียกว่า “สธอ.65” โครงการดังกล่าวมีแผนการดำเนินงานต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี คือตั้งแต่ปี 2564 – 2566 ปี 2564 จะเป็นการลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน หรือการนับจด ปี 2565 จะเป็นการประมวลผลและจัดทำรายงานจากข้อมูลพื้นฐาน หรือจากการนับจดในปี 2564 และการดำเนินการลงพื้นที่ซ้ำอีกครั้งเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียด หรือการแจงนับ และปี 2566 จะเป็นการประมวลผลและจัดทำรายงานจากข้อมูลรายละเอียด หรือจากการแจงนับในปี 2565
ทั้งนี้ในปี 2564 สำนักงานสถิติแห่งชาติ จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม หรือการนับจด จากสถานประกอบการประเภทต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ในและนอกระบบทะเบียน มีหน้าร้าน และไม่มีหน้าร้านทั่วประเทศ จำนวน 12 ประเภท
ได้แก่
1). การผลิต เช่น โรงงาน กลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
2). การจัดหา การจัดการ และการบำบัดน้ำเสีย ของเสียสิ่งปฏิกูล เช่น บริษัทรับกำจัดขยะ/ของเสีย
3). การก่อสร้างที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้างที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย และการติดตั้งภายในสิ่งก่อสร้าง
4). การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์และจักรยานยนต์ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า โชว์รูมขายรถ อู่ซ่อมรถ
5). กิจการคลังสินค้าและกิจการที่สนับสนุนการขนส่ง เช่น โกดังสินค้า บริษัทขนส่งสินค้า
6). ที่พักและบริการด้านอาหาร เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร
7). ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร เช่นสำนักพิมพ์ ช่องข่าว
8). กิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริษัทอสังหาริมทรัพย์
9). กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และเทคนิค เช่น สำนักทนายความ บริษัทสถาปนิก
10). กิจกรรมการบริหาร และการบริการสนับสนุน เช่น บริษัทจัดหางาน ตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยว 11). ศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ เช่น นักเขียน ลิเก หมอลำ การขายลอตเตอรี่ และ
12). กิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่น ร้านตัดผม ร้านซักอบรีด
นางสาววันเพ็ญ พูลวงษ์ ได้กล่าวอีกว่า การจัดทำ สธอ. 65 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐในการบูรณาการข้อมูล ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติได้รวบรวมข้อมูลสถานประกอบการจากทั้ง 3 หน่วยงาน มาบูรณาการร่วมกันเพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลาง สำหรับการจัดเก็บข้อมูลในครั้งนี้ เพื่อลดภาระการตอบแบบสอบถามของประชาชน หากสถานประกอบการใดได้ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานข้างต้นแล้ว การจัดเก็บข้อมูลจะเป็นการอัพเดทข้อมูลสถานประกอบการ สำหรับสถานประกอบการใดที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับหน่วยงานข้างต้น การจัดเก็บข้อมูล สธอ.65 ในครั้งนี้ จะทำให้สำนักงานสถิติแห่งชาติมีข้อมูลของท่านอยู่ในฐานข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการ ให้ข้อมูลโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยเจ้าหน้าที่คุณมาดีจะลงพื้นที่เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2564และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 สำนักงานสถิติแห่งชาติ ตระหนักถึงความปลอดภัยในการลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยคุณมาดีที่ลงไปเก็บข้อมูลจะสวมใส่ mask พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล และปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด ขอให้ท่านมั่นใจว่า ข้อมูลที่ให้มาจะถูกเก็บเป็นความลับและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตามมาตรการของภาครัฐ และไม่นำไปเชื่อมโยงกับการเก็บภาษีอย่างแน่นอน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 9 กรกฏาคม 2564