เวียตเจ็ทเผยผลประกอบการธุรกิจ 6 เดือนแรกของปีเติบโตอย่างโดดเด่น

เวียตเจ็ทเผยผลประกอบการธุรกิจ 6 เดือนแรกของปีเติบโตอย่างโดดเด่น แม้ตลาดการบินเวียดนามมีการแข่งขันสูง บริการขนส่งทางอากาศช่วงครึ่งปีแรกโตถึง 22% ผลกำไรเพิ่มขึ้น 16% เทียบกับปีก่อน
 
เวียตเจ็ท เปิดเผยรายงานผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2562 ระบุรายรับจากธุรกิจขนส่งทางอากาศที่ 20,148 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 1,563 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรายรับรวมของบริษัทเมื่อนับรวมผลประกอบการธุรกิจจากการขายเครื่องบินแล้วจะมากกว่า 26.3 ล้านล้านดอง ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% และมีกำไรก่อนหักภาษีที่ 2.4 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
 
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินจำนวน 68,821 เที่ยว คิดเป็น 45% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดของสายการบินทุกแห่งของเวียดนาม ซึ่งทำให้เวียตเจ็ทได้บริการผู้โดยสารรวมทุกเส้นทางกว่า 13.5 ล้านคน โดยเวียตเจ็ทยังคงรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจการบินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาด 44% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์รั้งอันดับ 2 ที่ส่วนแบ่ง 34%
 
เวียตเจ็ทยังสามารถสร้างการเติบโตได้ในตลาดการบินต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีอัตราผลกำไรที่สูงจากรายรับของบริการเสริมและต้นทุนค่าเชื้อเพลิงต่ำ การเติบโตในตลาดการบินต่างประเทศยิ่งทำให้เวียตเจ็ทมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงขึ้นเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น จำนวนผู้โดยสารบนเส้นทางระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทเพิ่มขึ้น 35% หรือราว 4 ล้านคน 
 
โดยเวียตเจ็ทมีรายรับจากบริการขนส่งระหว่างประเทศมากกว่าภายในประเทศ โดยคิดเป็น 54% ของรายรับบริการขนส่งทางอากาศรวมทั้งหมดของบริษัท ส่วนรายรับจากบริการเสริมและคลังสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 5.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปีที่ผ่านมาเป็น 27% ในปีนี้ สืบเนื่องจากการเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ท
 
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ 9 เส้นทาง สู่ญี่ปุ่น ฮ่องกง อินโดนีเซีย จีน และเส้นทางบินภายในประเทศอีก 3 เส้นทาง ซึ่งทำให้ในปัจจุบัน เวียตเจ็ทมีเส้นทางบินทั่วโลกทั้งหมด 120 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางระหว่างประเทศ 78 เส้นทาง และเส้นทางภายในประเทศ 42 เส้นทาง เครือข่ายการบินของเวียตเจ็ทครอบคลุมทั้งเวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา จีน และอื่น ๆ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังมีการดำเนินงานในสนามบินอีกหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงดูไบและโดฮา
 
ในช่วงเวลานี้ รายรับต่อที่นั่งต่อระยะทาง (RPK) ของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 16.3 พันล้าน เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 88% ความน่าเชื่อถือด้านเทคนิคที่ 99.64% และความตรงเวลาของเที่ยวบิน (On-time Performance : OTP) ที่ 81.5%
 
หุ้นของเวียตเจ็ทมีมูลค่า 15,622 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทรัพย์สินรวมมีมูลค่าราว 44.5 ล้านล้านดอง เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินระยะยาวถึง 21.9 ล้านล้านดอง คิดเป็น 49% ของทรัพย์สินทั้งหมด โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio) อยู่ที่ 0.50 ซึ่งถือว่าดีขึ้นจากอัตรา 0.64 ของปีที่ผ่านมา การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลงมติให้จ่ายปันผลของปี พ.ศ. 2561 ที่อัตรา 55% ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้ที่ 50% ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
 
โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เวียตเจ็ทยังได้นำเสนอแอปพลิเคชั่น Vietjet Air เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งรวมถึงบริการซื้อบัตรโดยสารระบบออนไลน์ที่รวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน และโปรโมชั่นจองบัตรโดยสารราคา 0 บาททุกวันศุกร์และฟรีค่าธรรมเนียม ฯลฯ
 
สถาบันการบินเวียตเจ็ทที่ Ho Chi Minh City High-Tech Park ในกรุงโฮจิมินห์ ถือเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่มีมาตรฐานระดับสากล ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และมีหลักสูตรการฝึกสอนที่ผ่านการรับรองคุณภาพโดยองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) จวบจนปัจจุบัน เวียตเจ็ทได้จัดหลักสูตรการฝึกอบรม 250 หลักสูตรแก่นักบิน ลูกเรือ วิศวกร พนักงานการบินรวม 5,623 คน เครื่องจำลองการบินแบบครบวงจรของสถาบันการบินเวียตเจ็ทได้เริ่มใช้งานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 รวมมอบเวลาการฝึกอบรม 3,178 ชั่วโมง แก่ผู้รับการฝึกและครูฝึกกว่า 2,809 คน โดยศูนย์จำลองการบินของเวียตเจ็ทยังได้รับใบรับรองมาตรฐาน ATO level 2 จากองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นมาตรฐานชั้นนำระดับโลก
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียตเจ็ทยังเป็นหนึ่งในวิสาหกิจต่างประเทศเพียงไม่กี่แห่งที่ได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเรน (Japan Federation of Economic Organizations - Keidanren) ซึ่งเฟซบุ๊กก็ได้เข้าร่วมกับเคดันเรนในวันเดียวกัน นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเวียดนามประจำปี พ.ศ. 2561
 
ด้วยผลประกอบการเชิงบวก การขยายเครือข่ายการบินทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลก ร่วมกับความสามารถในการบริหารต้นทุนและคุณภาพการดำเนินงาน ทำให้เวียตเจ็ทคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างการเติบโตเชิงบวกได้ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งภายในประเทศและการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่คณะกรรมการบริหารของบริษัทได้รายงานในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เวียตเจ็ทยังหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาคารขนส่งผู้โดยสาร ปรับปรุงบริการด้านเทคนิค บริการภาคพื้นดิน และการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มความได้เปรียบและประสิทธิภาพการดำเนินงานของสายการบิน ร่วมกับการขยายธุรกิจในตลาดการบินอย่างต่อเนื่อง
 
เกี่ยวกับ เวียตเจ็ทกรุ๊ป
 
สายการบินเวียตเจ็ท คือสายการบินในประเทศเวียดนามรายแรกซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินยุคใหม่ ซึ่งนอกจากบริการขนส่งผู้โดยสาร สายการบินเวียตเจ็ทยังใช้เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซใหม่ล่าสุด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการมากมายแก่ผู้บริโภค เมื่อเร็ว ๆ นี้ สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ได้รับบรรจุเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาตา (International Air Transport Association: IATA) โดยสมบูรณ์ หลังจากได้รับใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบินจากไออาตาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา 
 
นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล "สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019) และยังได้รับการจัดอันดับด้านความปลอดภัยระดับ 7 ดาวจากเว็บไซต์ AirlineRatings.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านความปลอดภัยและการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ระดับโลก นอกจากนี้ บริษัทยังติดอันดับ 50 สายการบินที่มีสถานทางการเงินและการดำเนินงานเข้มแข็งที่สุดของโลกโดยนิตยสาร Airfinance Journal ในปี ค.ศ. 2018
 
ปัจจุบัน เวียตเจ็ทดำเนินการบิน 400 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งให้บริการแก่นักเดินทางมาแล้วกว่า 80 ล้านคน เปิดให้บริการ 120 เส้นทางในเวียดนามและทั่วภูมิภาค รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในประเทศต่างๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา
 
ที่มา : www.ryt9.com วันที่ 2 สิงหาคม 2562

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)