รัฐบาลเยอรมนีได้ให้คำมั่นว่าจะบริจาควัคซีนป้องกันโควิด-19 แอสตร้าเซนเนก้าให้เวียดนาม 2.5 ล้านโดส ตามการระบุของกระทรวงการต่างประเทศ

 

ก่อนหน้านี้ เยอรมนีได้ประกาศมอบเครื่องช่วยหายใจ 75 เครื่อง เครื่องตรวจทางการแพทย์ 15 เครื่อง และเครื่องวัดออกซิเจน 20,000 เครื่อง ให้เวียดนาม ที่เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์มาตั้งแต่เดือน ต.ค.2554

 

ท่ามกลางการพัฒนาที่ซับซ้อนของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญกับการเข้าถึงวัคซีนจากแหล่งต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาด และจนถึงปัจจุบัน เยอรมนีเป็นผู้บริจาควัคซีนให้เวียดนามรายใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยประเทศในสหภาพยุโรปที่เคยบริจาควัคซีนให้เวียดนามมีทั้งอังกฤษ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก

 

เมื่อวันเสาร์ (4) รัฐบาลเวียดนามยังขอการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมจากรัสเซีย โดย พล.อ.ฟาน วัน ซาง รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเวียดนามได้ร้องขอต่อ อเล็กเซ คริโวรุชโค รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ที่งานเลี้ยงต้อนรับการเดินทางเยือน

 

พล.อ.ฟาน วัน ซาง ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกับรัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญในนโยบายทางการทูตของประเทศ และหวังว่ารัสเซียจะยังคงให้ความช่วยเหลือด้านวัคซีนแก่เวียดนามต่อไปท่ามกลางสถานการณ์การระบาดที่ซับซ้อน

 

เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา รัสเซียได้มอบวัคซีนสปุตนิก วี 1,000 โดสให้เวียดนาม

 

จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วกว่า 29 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าราว 19.1 ล้านโดส และมีประชาชนมากกว่า 20 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และมีประมาณ 3 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม

 

เวียดนามตั้งเป้าที่จะจัดหาวัคซีนให้ได้ 150 ล้านโดสเพื่อให้ครอบคลุม 70% ของประชากร 96 ล้านคนภายในปีหน้า

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 5 กันยายน 2564