เด็กไทยควรฉีดวัคซีนโควิดตัวไหน หมอเฉลิมชัยเแนะพิจารณา 3 มิติ
หมอเฉลิมชัยเผยข้อมูลการฉีดวัคซีนให้เด็กในต่างประเทศ สะท้อนเด็กไทยควรฉีดวัคซีนโควิดตัวไหน ระหว่าง Sinovac Sinopharm Pfizer และ Moderna เแนะผู้ปกครองพิจารณา 3 มิติ
รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า เด็กไทยควรฉีดวัคซีนโควิดตัวไหนดี ระหว่าง Sinovac Sinopharm Pfizer และ Moderna
ในสถานการณ์โควิดกำลังเป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก กินเวลากว่าหนึ่งปีเศษแล้วนั้น ในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นกลุ่มที่มีรายงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด เพราะนักวิจัยมักจะหลีกเลี่ยงการทดลองในอาสาสมัครเด็กเสมอ โดยจะเริ่มทำการทดลองในอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่ก่อน หลังจากนั้นก็จะขยับมาทำการทดลองในผู้สูงอายุ และจะทดลองในเด็กเป็นลำดับสุดท้าย
เพราะเด็กเป็นวัยที่เปราะบาง ร่างกายยังไม่สมบูรณ์แข็งแรง และจิตใจก็ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครอง มักจะไม่ยินยอมให้เด็กเข้าสู่การทดลองใดใดทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องการทดลองยาหรือวัคซีน
โดยในช่วงเริ่มต้น เราจะมีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนในอาสาสมัครอายุ 18-59 ปีเป็นหลัก แล้วจะเริ่มขยับไปทดลองในกลุ่มสูงอายุ ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
ส่วนการทดลองในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา ก็จะเป็นกลุ่มสุดท้าย และจะค่อยทดลองจากอายุมากขยับลงไปหาอายุน้อยที่สุดเป็นลำดับ
จนถึงปัจจุบัน ทุกวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะกำหนดให้ฉีดในผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ยกเว้นของ Pfizer ที่ทดลองในเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไป
ต่อมาเริ่มมีการวิจัยการให้วัคซีนในผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี และมีข้อสรุปดังนี้
1.ในเด็กและเยาวชนที่อายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna ได้ในประเทศที่ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน
2.ในกลุ่มที่มีการทดลองยังไม่สมบูรณ์ และให้เริ่มฉีดได้เลย ได้แก่
2.1 ชิลี ให้ฉีดได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบเป็นต้นไป
2.2 คิวบา ให้ฉีดในเด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไปได้
3.ในส่วนที่ทำการวิจัยทดลองยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังไม่อนุญาตให้ฉีดเป็นการทั่วไป ได้แก่
3.1 วัคซีนของ Pfizer และ Moderna กำลังทดลองฉีดในอายุตั้งแต่ห้าขวบขึ้นไป
3.2 วัคซีนของ Sinovac และ Sinopharm กำลังทดลองฉีดในเด็กอายุสามขวบขึ้นไป
สำหรับในประเทศไทย โดยคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ ได้แนะนำ
1.ยังไม่ฉีดเป็นการทั่วไป ในเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีลงมา
2.เด็กอายุ 12-15 ปี ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงคือมีโรคประจำตัวที่อาจจะเป็นอันตราย ให้พิจารณาฉีดวัคซีนได้
ก็จะมาถึงปัญหาของคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองว่า ถ้าลูกตนเองอยู่ในกลุ่มที่จะฉีดวัคซีนได้แล้ว จะฉีดวัคซีนบริษัทไหนดี ด้วยเหตุผลว่าอะไร คงจะต้องพิจารณาจาก 3 มิติด้วยกัน
1.มิติผลข้างเคียง วัคซีนเทคโนโลยี mRNA เป็นเทคโนโลยีใหม่ ยังไม่เคยผลิตเป็นวัคซีนและฉีดให้เด็กและเยาวชนมาก่อนเลย และเริ่มพบมีปัญหากล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็กและเยาวชนผู้ชายพอสมควร พบประมาณ 5 รายใน 1 ล้านโดส
ส่วนวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย ได้เคยผลิตวัคซีน และนำมาฉีดในเด็กและเยาวชนมาหลายสิบปีแล้ว จึงมีความสบายใจได้ในเรื่องผลข้างเคียง
2.มิติประสิทธิผล วัคซีนเทคโนโลยี mRNA มีประสิทธิผลสูงกว่าเทคโนโลยีเชื้อตาย
3.มิติการเจ็บป่วยจากโควิด พบว่าในเด็กและเยาวชน เมื่อติดโควิดแล้วจะไม่ค่อยแสดงอาการ ในรายที่แสดงอาการ ก็จะมีอาการไม่ค่อยรุนแรง และมีจำนวนป่วยหนักและเสียชีวิตค่อนข้างน้อย
โดย 3 มิติดังกล่าวข้างต้น คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองจึงต้องชั่งใจ ให้ครบถ้วนว่า จะฉีดวัคซีนให้บุตรหลานตนเองหรือไม่อย่างไร และจะฉีดด้วยวัคซีนอะไรดี
สำหรับในประเทศไทย อย.ได้จดทะเบียนให้วัคซีน Pfizer กับ Moderna สามารถฉีดในอายุ 12 ปีขึ้นไปได้
ส่วนวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย Sinopharm ได้ยื่นขอจดทะเบียนฉีดในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปแล้ว กำลังรอผลการพิจารณา
ส่วนวัคซีน Sinovac จะยื่นขอจดทะเบียนในเร็ววันนี้ สำหรับฉีดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป
ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับเด็กในต่างประเทศนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลพบว่า ประเทศคิวบาเป็นประเทศแรกในโลก ที่ประกาศฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ให้กับเด็กอายุน้อย ตั้งแต่สองขวบขึ้นไป เพื่อรองรับการเปิดเทอม โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 คิวบาได้สร้างความประหลาดใจให้กับทั่วโลก โดยการประกาศให้ฉีดวัคซีนสองยี่ห้อ คือ Abdala และ Soberana ซึ่งใช้โปรตีนเป็นฐานแบบเดียวกับ Novavax และ Sanofi ให้กับเด็กตั้งแต่อายุ 2 ขวบถึง 11 ปี
สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เยอรมัน ฝรั่งเศส ให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ เฉพาะของ Pfizer
ชิลี ให้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปได้ ของ Sinovac
อังกฤษและไทย ให้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไป ส่วนอายุ 12-15 ปี ฉีดให้เฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ มีโรคประจำตัว
โดยที่บริษัท Pfizer และ Moderna กำลังวิจัยทดลองในเด็กอายุตั้งแต่ห้าขวบขึ้นไป
ส่วนบริษัท Sinovac และ Sinopharm กำลังวิจัยทดลองในเด็กอายุตั้งแต่สามขวบขึ้นไป
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 9 กันยายน 2564