จนท.นครโฮจิมินห์ชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำกว่าจริง 40% ร้องรัฐบาลนับรวมผลตรวจ Rapid Test
รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ในเมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนามกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับผลตรวจจากชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Rapid Test) เพื่อให้สะท้อนภาพการระบาดของเมืองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สื่อของรัฐรายงานวันนี้ (27) ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมของเมืองเพิ่มขึ้น 40%
นครโฮจิมินห์ ที่เป็นที่อยู่อาศัยของประชากรประมาณ 9 ล้านคน ได้กลายเป็นศูนย์กลางของวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของประเทศ โดยนครโฮจิมินห์มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อคิดเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ 756,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ถึง 80% จากทั้งหมด 18,500 คน
หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานอ้างคำกล่าวของรองหัวหน้าหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเมืองว่า ผลตรวจจากชุดตรวจโควิดแบบเร่งด่วนที่เป็นบวกของประชาชน 150,000 คนในเมืองตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ไม่ได้ถูกนับรวมอยู่ในจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมทั้งหมด
เช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ เวียดนามนับเฉพาะผลตรวจจากการตรวจแบบ PCR ที่เป็นการเก็บตัวอย่างเชื้อจากด้านหลังโพรงจมูก หรือลำคอ
นครโฮจิมินห์มีผู้ป่วยติดเชื้อรวม 372,180 คน หากยืนยันผลบวกของผู้ป่วยติดเชื้ออีก 150,000 คน จะทำให้อัตราการเสียชีวิตของเมืองลดลงจาก 3.8% เป็น 2.75%
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นจากรอยเตอร์
หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเมืองว่า ผู้ป่วย 150,000 คน กำลังรับการรักษา แต่ยังไม่ได้ทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี PCR เนื่องจากทรัพยากรไม่เพียงพอ
นครโฮจิมินห์เตรียมที่จะผ่อนปรนมาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และอนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งตั้งแต่วันศุกร์ (1) ในความพยายามที่จะฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมาเป็นเวลานาน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายกำหนดเป้าหมายให้ผู้ป่วยโควิด-19 เป็นศูนย์ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนหน้าจนกระทั่งเดือน เม.ย. ที่ประเทศเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้นเนื่องจากสายพันธุ์เดลตา
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 27 กันยายน 2564