เอเอฟพี - เศรษฐกิจเวียดนามหดตัวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 3 ตามการระบุของเจ้าหน้าที่วันนี้ (29) หลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องระงับการผลิตอย่างกว้างขวางในประเทศที่พึ่งพาการส่งออก

 

ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) หดตัวลง 6.17% เมื่อเทียบรายปีในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSP) ระบุว่า เป็นตัวเลขที่หดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ประเทศเริ่มบันทึกตัวเลขรายไตรมาส ที่มีรายงานในปี 2529

 

ปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผลงานทางเศรษฐกิจดีที่สุดในเอเชียและเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจขยายตัวหลังสามารถรักษายอดผู้ป่วยให้อยู่ในระดับต่ำและธุรกิจเปิดดำเนินการเป็นส่วนใหญ่

 

แต่การระบาดระลอกล่าสุดที่เริ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ในนิคมอุตสาหกรรมทางภาคเหนือของประเทศ และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทางใต้สู่นครโฮจิมินห์ ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ

 

สำนักข่าววีเอ็นเอ็กซ์เพรสรายงานว่า เป็นครั้งแรกที่เวียดนามมีอัตราการเติบโตรายไตรมาสติดลบนับตั้งแต่ปี 2543

 

1 ใน 3 ของประชากร 100 ล้านคนของประเทศ อยู่ภายใต้คำสั่งอยู่กับบ้านเป็นเวลาหลายเดือนในช่วงฤดูร้อน ส่วนโรงงานต่างๆ ต้องปิดดำเนินการและทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก

 

ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมมากกว่า 770,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเกือบ 19,000 คน

 

“การระบาดรอบที่ 4 ส่งผลกระทบโดยตรงกับหลายบริษัท กระทบห่วงโซ่อุปทาน แผนธุรกิจและการผลิตถูกยกเลิก พร้อมกับการระงับการดำเนินการบางส่วนหรือทั้งหมด” เหวียน ถิ บิค หง็อก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการลงทุน กล่าว แต่สำทับว่าปัญหาและความยากลำบากในช่วงเวลานี้เป็นเพียงชั่วคราว

 

“ประเทศกำลังเริ่มผ่อนคลายคำสั่งล็อกดาวน์อย่างกว้างขวางในความพยายามที่จะบรรเทาปัญหา แต่การเชื่อมต่อทางรถไฟและทางอากาศทั่วประเทศยังคงระงับอยู่เป็นส่วนใหญ่” รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการลงทุน กล่าว

 

ทั้งนี้ เวียดนามมีประชากรไม่ถึง 10% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน

 

แม้จะมีตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ แต่ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2564 จะขยายตัวที่ 4.8% ขณะที่เวียดนามตั้งเป้าการขยายตัวที่ 6.5%

 

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

วันที่ 29 กันยายน 2564