พิพาทการค้าสหรัฐ-จีนลามธุรกิจการศึกษา
การเข้มงวดด้านการออกวีซ่าของรัฐบาลสหรัฐส่งสัญญาณไปยังบรรดานักศึกษาจีนว่ามหาวิทยาลัยอเมริกันไม่ต้อนรับชาวจีน
ด้วยความอยากมีประสบการณ์เรียนต่อในอเมริกา วิเวียน สาวชาวจีนวัย 19 ปี จึงรีบขึ้นรถไฟ4ชั่วโมงจากภาคกลางของจีนไปกวางโจว ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อขอวีซ่าที่สถานกงสุลสหรัฐซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ที่สุด แต่กลายเป็นว่า แผนการของเธอไม่ราบรื่นอย่างที่คิด
วิเวียน รื้อฟื้นความทรงจำในวันนั้นให้ฟังว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ที่สถานกงสุลถามว่าเธอลงเรียนวิชาเอกอะไร ซึ่งเธอคิดว่าในความเป็นจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ควรจะตรวจสอบประวัติของเธอมากกว่า โดยวิเวียนได้ไปเรียนช่วงซัมเมอร์ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กเลย์ หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิศวกรรมของโลก ซึ่งการที่เป็นนักศึกษาจากจีน ทำให้การเลือกลงเรียนวิชาเอกอะไร เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะวิชาเอกวิศวกรรมอากาศยาน ทำให้เธอถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงของการสัมภาษณ์
“การเป็นนักเรียนจากจีนทำให้เราถูกสัมภาษณ์ในเรื่องต่างๆมากขึ้น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่การลงเรียนในช่วงซัมเมอร์ ต้องถูกสัมภาษณ์และตรวจสอบยาวนานด้วยเหมือนกัน ฉันไม่ได้สมัครลงเรียนคณะวิศวกรรมอากาศยานเสียหน่อย ฉันแค่ลงเรียนคอมพิวเตอร์สองเดือนในสหรัฐเท่านั้น” วิเวียน กล่าว
หลังเสร็จสิ้นกระบวนการสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าประมาณ1 เดือน วิเวียนก็ได้จดหมายรับรองจากมหาวิทยาลัยที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์จนกว่าสถานกงสุลจะออกวีซ่าให้เธอ ถือว่าเป็นอยู่ในกลุ่มชาวจีนที่โชคดี เพราะหนึ่งในเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกับเธอ ซึ่งวางแผนไปศึกษาเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติ ถูกปฏิเสธวีซ่า
เดวิด อู๋ ซึ่งปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาเอกคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับที่วิเวียนจะไปเรียนคอมพิวเตอร์คอร์สสั้นๆ กล่าวว่า แม้ไม่ได้รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยไม่ให้การต้อนรับ เพียงแต่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆ และคนทั่วไปในสหรัฐมักทำให้ตัวเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ต้องสงสัย"
นักศึกษาความจีนกว่า 360,000 คนสมัครเรียนตามวิทยาลับในสหรัฐในช่วงปีการศึกษา 2560-2561 เพิ่มขึ้นจากช่วง10ปีที่แล้วที่มีอยู่เพียง 100,000 คน ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้ รวมทั้งวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยที่รับพวกเขาเข้าเรียน กำลังเจอปัญหาหนักใจที่เป็นผลพวงจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐคุมเข้มด้านการออกวีซ่าและดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกัน ข้อกล่าวหาต่างๆที่ว่านักศึกษาจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญา หรือเป็นสายลับปลอมตัวเข้ามาล้วงความลับก็ทำให้บรรยากาศในแวดวงการศึกษาอเมริกันที่มีนักศึกษาชาวจีนเรียนอยู่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น
“การเข้มงวดด้านการออกวีซ่าของรัฐบาลสหรัฐส่งสัญญาณไปยังบรรดานักศึกษาจีนว่ามหาวิทยาลัยอเมริกันไม่ต้อนรับพวกเรา มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ เหมือนถูกใครบางคนปิดประตูใส่หน้า”ลาเวนเดอร์ เจียง ชาวจีนวัย 20 ปีซึ่งเข้ามาศึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ในพิตส์เบิร์ก กล่าว
บรรดาพ่อแม่ชาวจีนนั้น เป็นที่รู้กันดีกว่าให้ความสำคัญกับการศึกษามาก แต่การที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดช่วง2ทศวรรษเปิดโอกาสให้บรรดาพ่อแม่ชาวจีนส่งลูกหลานไปเรียนต่อต่างประเทศได้อย่างสบายขณะที่ผลศึกษาปี2558 ของหูหรุน ระบุว่า บรรดามหาเศรษฐีจีนตั้งใจที่จะลงทุนด้านการศึกษาแก่บุตรหลานในสัดส่วนมากถึงหนึ่งในสี่ของการใช้จ่ายรายปีของพวกเขา และในปี 2560 นักเรียนชาวจีนกว่า 600,000 คนเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ไปศึกษาด้านธุรกิจ วิศวกรรม คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆทั่วโลก พร้อมใจกันอ้าแขนรับนักศึกษาจากจีน โดยทุ่มเทงบประมาณเพื่อจัดงานเอ็กซ์โปด้านการศึกษา ทำแคมเปญด้านการตลาดเพื่อดึงดูดนักศึกษาจากจีนเข้ามาศึกษาที่สถาบันของตัวเอง รวมทั้งเป็นพันธมิตรกับบรรดาสถาบันการศึกษาจีน
วันที่ 11 สิงหาคม 2562
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ