ไทยมีแผนที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว นับเป็นการผ่อนคลายมาตรการควบคุมชายแดนที่สำคัญสำหรับชาติในเอเชีย ซึ่งรัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้ชะลอการยกเลิกมาตรการควบคุมการเดินทางจากหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากกว่าชาติตะวันตกส่วนใหญ่

 

สำนักข่าวเอเอฟพีได้ทำสรุปภาพรวมในเอเชีย-แปซิฟิกว่า มีประเทศไหนที่กำลังเปิดประเทศ และประเทศไหนที่ยังคงปิดกั้นตัวเองจากโลกบ้าง

 

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ :

 

ไทยจะอนุญาตให้ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนจาก 46 ประเทศและเขตแดนเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้ความพยายามฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญยิ่งของประเทศ

 

ด้านประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งส่วนใหญ่รอดพ้นจากการแพร่ระบาดในระลอกแรก แต่เผชิญกับผลกระทบอย่างหนักในปีนี้ก็ทยอยเดินตามหลังไทย แม้จะเดินไปอย่างช้าๆ ก็ตามที

สิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจในภูมิภาคเริ่มการเดินทางแบบไม่มีการกักตัวสำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบจาก 10 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป และจะเพิ่มจำนวนประเทศที่ได้รับการยกเว้นดังกล่าวให้มากขึ้นในเร็วๆ นี้

 

ด้านอินโดนีเซียได้เปิดเกาะบาหลี ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทมากมายอีกครั้งในเดือนนี้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากบางประเทศ แม้ว่าผู้เดินทางยังคงต้องกักตัว 5 วันเมื่อเดินทางมาถึงก็ตาม

 

ข้างเวียดนามวางแผนที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางเยือนเกาะฟูโกว๊กได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเช่นกัน และมาเลเซียมีแผนที่คล้ายกันสำหรับเกาะลังกาวี ในขณะที่กัมพูชาจะเปิดจุดชายหาดสีหนุวิลล์ เกาะรง และดาราสาครอีกครั้งในวันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

ส่วนฟิลิปปินส์และเมียนมาร์ ยังคงปิดประเทศไม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

เอเชียตะวันออก :

 

จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโควิด-19 ในปี 2020 ยังคงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ เช่นเดียวกับญี่ปุ่น

 

เกาหลีใต้เริ่มรับนักท่องเที่ยวจาก 49 ประเทศ แต่ผู้เดินทางมาถึงทุกคนต้องมีผลตรวจสอบไวรัสเป็นลบ ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนในเกาหลีใต้จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องกักตัว 14 วัน

 

ในฮ่องกง มีการนำมาตรการที่อาจเรียกได้ว่าเข้มงวดที่สุดในโลกบางอย่างมาใช้ โดยมีการกักกันสูงสุด 21 วันสำหรับนักเดินทางที่เข้ามายังฮ่องกง ซึ่งทำให้จำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องชะงักงัน

 

เอเชียใต้ :

 

หลังฟื้นตัวจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงสุดในช่วงต้นปีนี้ อินเดียได้เปิดรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งในเดือนตุลาคม และจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวในเที่ยวบินปกติเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

 

โดยผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องกักตัวที่บ้านอีก หากพวกเขาเดินทางมาจากประเทศที่มีข้อตกลงร่วมกันกับอินเดียในการยอมรับวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก

 

เมื่อเดือนตุลาคม เนปาลเริ่มออกวีซ่า On Arrival สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน และลดข้อกำหนดการกักตัว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับขึ้นมาเยือนประเทศที่ตั้งอยู่บนทิวเขาสูงอีกครั้ง

 

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวมากกว่าหนึ่งล้านคนไปเยือนเนปาลในปี 2019 แต่ตัวเลขลดลง 80 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว

 

หนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เปิดพรมแดนอีกครั้งคือมัลดีฟส์ จุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับวันหยุด ซึ่งเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน

 

จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียฟื้นตัวขึ้นเป็น 500,000 คนในปีที่แล้วหลังการเปิดประเทศ และทางการคาดว่าคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมัลดีฟส์ราว 1.5 ล้านคนในปีนี้ แม้จะน้อยกว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2019 ก็ตาม

 

ศรีลังกาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดยไม่มีข้อกำหนดการกักกันเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ในขณะที่ปากีสถานอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ ตราบใดที่พวกเขามีหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนและมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ

 

ออสเตรเลียและแปซิฟิก :

 

ออสเตรเลียได้ออกมาตรการจำกัดชายแดนที่เข้มงวดที่สุดในโลกเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดใหญ่ โดยห้ามไม่ให้พลเมืองเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่รัฐบาลประกาศเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวจะถูกยกเลิก และยังจะมีการเปิดประเทศรับแรงงานมีฝีมือรวมถึงนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติภายในสิ้นปีนี้เช่นกัน

 

ด้านนิวซีแลนด์ยังคงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเยือน และยังไม่มีการกำหนดว่าจะเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อใด

 

ประเทศฟิจิในแปซิฟิกใต้ ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จะอนุญาตให้นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนจากประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 27 ตุลาตม 2564