ยอดจองล่วงหน้าต่างชาติชะงัก หลังรัฐจ่อขยายระงับคำขอเข้าไทยผ่านเทสต์ แอนด์ โก
นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงส่งท้ายปี 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 มีความคึกคักมาก จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวภูเก็ตมีสัดส่วนเป็นครึ่งต่อครึ่ง
ซึ่งพบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าภูเก็ตประมาณ 4,000 คนต่อวัน โดยเห็นยอดจองล่วงหน้า (บุ๊กกิ้ง) ในเดือนมกราคม ยังดีอยู่ ส่วนใหญ่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวแบบกระจายตัว แต่มียอดจองสูงๆ ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ ป่าตอง ยอดจองล่วงหน้าอยู่ที่ 60-70% ส่วนยอดจองล่วงหน้าใหม่ หลังจากเดือนมกราคม เป็นต้นไป เริ่มชะลอตัวลง เพราะมีข้อมูลออกไปว่า ประเทศไทยอาจยกระดับความเข้มข้นของมาตรการเข้าประเทศขึ้นมา
โดยเฉพาะการเลื่อนระงับอนุมัติคำขอเข้าประเทศไทยผ่านไทยแลนด์ พาส ในรูปแบบเทสต์ แอนด์ โก เบื้องต้นคาดว่าจนถึงสิ้นเดือนมกราคมนี้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทาง เพื่อรอดูความชัดเจนหลังจากนี้ก่อน จึงเห็นยอดจองล่วงหน้าใหม่แม้ยังมีอยู่ แต่ชะลอตัวลงมากขึ้น
นายก้องศักดิ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ผ่านการอนุมัติคำไทยแล้ว ซึ่งตกค้างอยู่ในระบบยังสามารถเดินทางมาเที่ยวไทยได้ ตามรูปแบบที่ได้รับการอนุมัติ ทั้งเทสต์ แอนด์ โก แซนด์บ็อกซ์ และกักตัว
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ที่ลงทะเบียนแบบเทสต์ แอนด์ โก ก่อนหน้านี้ ต้องการให้เดินทางเข้ามาภายในวันที่ 10 มกราคม หลังจากนั้นการเดินทางเข้าไทย จะต้องเข้าผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์ในภูเก็ต หรือเข้ามาในระบบกักตัวเท่านั้น
เบื้องต้นมองว่า ในพื้นที่ภูเก็ตไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เพราะภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งใจอยู่เกิน 7 วันอยู่แล้ว และอาจเห็นต่างชาติเปลี่ยนใจจากที่จะเที่ยวจังหวัดอื่น มาเที่ยวภูเก็ตมากขึ้นอีกด้วย แต่จะส่งผลกับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมาเที่ยวและต้องการเดินทางออกไปเที่ยวต่อในหลายพื้นที่เพิ่มเติม อาทิ เขาหลัก จังหวัดพังงา และกระบี่ ภายในจำนวนวันพำนักประมาณ 7 วัน
ซึ่งจะทำให้คนกลุ่มนี้ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อที่อื่นได้ โดยภาคเอกชนได้หารือร่วมกัน ในหมวดกลุ่มจังหวัดเป็นเกาะ อาทิ กระบี่ พังงา ซึ่งอยากจะขอให้จัดเป็นแซนด์บ็อกซ์ร่วมกับภูเก็ต ภายใต้รูปแบบแซนด์บ็อกซ์อันดามันขึ้น เพื่อให้มีส่วนร่วมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
“สถานการณ์การระบาดโควิด หากสายพันธุ์โอมิครอน ระบาดเป็นวงกว้างจริงๆ รัฐบาลอาจต้องเยียวยาผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่จะเป็นรูปแบบใดต้องมาประเมินร่วมกันใหม่ โดยอยากให้เน้นสนับสนุนค่าใช้จ่ายในบางเรื่อง อาทิ ค่าน้ำค่าไฟฟ้า และเรื่องภาษีต่างๆ เพราะที่ผ่านมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังเห็นต่างชาติเข้ามาไม่มากนัก มีเดือนที่เห็นกำไรเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ขาดทุนมาตลอด จึงอยากให้รัฐบาลคุมการระบาดให้ได้ และเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบด้วย” นายก้องศักดิ์กล่าว
ที่มา มติชน
ที่มา 5 มกราคม 2565