หอการค้าชี้เพื่อป้องกันโอมิครอนไม่ให้ระบาดหนัก ต้องยอมเลื่อนเปิดกิจกรรม-กิจการ
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน และสายพันธุ์อื่นๆ ที่เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รัฐบาลอาจเลื่อนการเปิดสถานบริการออกไปก่อน รวมถึงอาจพิจารณาปิดบางกิจกรรมหรือกิจกรรมนั้น
ส่วนนี้เมื่อประเมินสถานการณ์แล้ว พบว่ามีการระบาดโควิดในหลายพื้นที่มากขึ้น ซึ่งเกิดจากร้านอาหารที่ปรับมาจากสถานบันเทิง ที่ไม่ได้มาตรฐานในการดูแลรักษา ลดความเสี่ยง ในการแพร่ระบาด ก็เห็นว่าการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชน
โดยหากยังมีการระบาดอยู่เพิ่มเติมอย่างนี้ อาจต้องชะลอการเปิดบางธุรกิจออกไปก่อน เพราะแม้ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้เปิด แต่ก็เห็นมีหลายคนไม่ทำตามคำแนะนำ จนเกิดการระบาดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งหากมองว่าเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงโอกาสที่จะทำให้เกิดการระบาดแบบรุนแรงอีกรอบ การเลื่อนออกไปก่อน น่าจะดีต่อสถานการณ์ในภาพรวม
“หอการค้าไทยเข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และเชื่อว่าไม่มีใครต้องการให้ประเทศมีการล็อกดาวน์อีกครั้ง แต่ขณะนี้แนวโน้มการแพร่ระบาดเริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอาจต้องมีการยกระดับมาตรการป้องกันให้เยอะขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจเป็นปัญหาระยะยาว ที่สร้างผลกระทบรุนแรงมากขึ้น หากเกิดการระบาดโควิดแพร่ในวงกว้าง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจที่เราคาดหวังว่า ในปี 2565 จะสามารถฟื้นตัวได้” นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น กล่าวว่า สำหรับมาตรการเทส แอนด์ โก ที่รัฐบาลอาจมีการขยายระงับการพิจารณาออกไป อาจจะต้องมาพิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาด ควบคู่ไปกับภาพเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ประเทศไทยได้ชะลอการเข้ามาของต่างชาติแล้วกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้หากจะต้องเลื่อนออกไปอีกก็จะกระทบกับเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
โดยอยากให้รัฐบาลพิจารณาถึงมาตรการที่ร่วมกันทำได้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศไทย หากเราสามารถลดวันกักตัว หรือ เพิ่มพื้นที่จังหวัดที่พร้อมเป็นแซนด์บ็อกซ์มากขึ้น ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้มีการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาถึงข้อแนะนำทางสาธารณสุขควบคู่กันไปด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 6 มกราคม 2565