เอกชน ไม่กังวล โอมิครอนมั่นใจรับมือได้
เอกชน ไม่หวั่นโอมิครอน ชี้ วัคซีน เป็นหัวใจสำคัญรับมือโอมิครอน พร้อมใช้มาตรการคุมเข้มเช่นเดียวกับเดลต้าระบาด
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงานต่างๆก็ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธ์เดลต้าทั้งเรื่องของบับเบิลแอนด์ชิล แฟคเตอร์แซนด์บ๊อก การเว้นระยะห่าง การคัดกรองด้วยการ Swab ในรูปแบบ RT-PCR 100 เปอร์เซ็นต์ และมีการตรวจสุ่มหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit ทุกสัปดาห์
ที่สำคัญแรงงานทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันและลดอัตราการติดเชื้อที่รุนแรง หลังจากนี้คงต้องรอบูสเข็ม 3 ต่อไป ซึ่งการฉีดวัคซีนให้กับแรงงานเป็นพื้นฐานสำคัญทำให้มั่นใจในการทำงานได้ระดับหนึ่ง และหากพบว่าแรงงานติดเชื้อก็ใช้แนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว แยกกักตัวที่บ้าน หรือโฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation)
รวมถึงการแจ้งหน่วยงานด้านสาธารณสุขให้เข้ามาช่วยดูแลและรักษาโดยการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์(Favipiravir) แม้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโมิครอนโรงงานต่างๆก็ยังใช้มาตรการคุมเข้มเดิม ซึ่งสามารถดูแลป้องกันได้เป็นอย่างดี จนถึงปัจจุบันยังควบคุมสถานการณ์และยังไม่มีรายงานจากโรงงานไหนที่มีปัญหามากๆ
“รอบนี้ถือว่ามีภูมิคุ้มกันพอสมควรจากการฉีดวัคซีน มาตรการที่ได้ทำไว้ และแรงงานเริ่มเข้าใจ ดูแลตัวเองมากขึ้น จากนี้ไปโรคจะปรับเปลี่ยนไปหรือมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามา เราก็ยังคงใช้มาตรการเดิมในการคุมเข้ม และหากมีวัคซีนใหม่ๆเข้ามาก็จำเป็นต้องให้แรงงานฉีดวีคซีนเพิ่ม”นายวิศิษฐ์ กล่าว
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้มาตรการที่ใช้ก็ยังใช้เหมือนเดิมในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโอมิครอน เพียงแต่เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น เพราะระบบที่ผ่านมาก็ถือว่าดีมาก อย่างไรก็ตามการระบาดของโอมิครอนไม่ได้มีความกังวลมากเหมือนกับสายพันธุ์เดลต้าที่ช่วงนั้นยังไม่มีวัคซีน และขณะนี้แรงงานทั้งหมดก็ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมดแล้วทำให้เบาใจมากขึ้น เพราะวัคซีนคือหัวใจสำคัญมากๆในการรับมือกับการระบาดของโอมิครอน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 17 มกราคม 2565