ยูเอ็นชี้ท่องเที่ยวโลกฟื้นปี 67 "เอเชีย-แปซิฟิก" ทรุดหนักสุด นักท่องเที่ยวลด 94%
องค์การท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ระบุว่า การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกไม่น่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนกว่าจะถึงปี 2567 หรืออีกเกือบ 2 ปีนับจากนี้ไป
ดัชนีชี้วัดสถานการณ์การท่องเที่ยวโลกที่ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอจัดทำขึ้นระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนซึ่งแม้จะทำให้มีอาการป่วยไม่มากนัก แต่จะส่งผลกระทบกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในปีนี้ หลังจากในปี 2564 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวโลกเติบโตขึ้น 4% จากปี 2563 ขณะที่รายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวในปี 2563 ลดลง 72% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอชี้ว่า การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังเป็นไปอย่างล่าช้าๆ และไม่สม่ำเสมอในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง อัตราการฉีดวัคซีน และความมั่นใจของนักเดินทาง
ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 19% และ 17% ตามลำดับในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 ขณะที่ในตะวันออกกลาง นักท่องเที่ยวลดลง 24% ในปี 2564 ขณะที่ในเอเชีย-แปซิฟิก นักท่องเที่ยวลดลง 65% เมื่อเทียบกับปี 2563 และลดลง 94% เมื่อเทียบกับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่รายได้ทางเศรษฐกิจที่มาจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2564 ซึ่งเป็นการวัดตัวเลขรายได้จีดีพีที่มาจากการท่องเที่ยวโดยตรงอยู่ที่ราว 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าในปี 2563 ที่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดที่ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดีแถลงการณ์ของยูเอ็นดับเบิลยูทีโอระบุว่า ผู้ที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวยังเห็นโอกาสที่ดีขึ้นในปีนี้ แม้ในช่วงต้นปีจะเกิดความวุ่นวายจากการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์โอมิครอนก็ตาม พร้อมกับคาดการณ์ว่าในปี 2565 นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นราว 30-78% แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาด
ยูเอ็นดับเบิลยูทีชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังคงไม่เห็นว่าการท่องเที่ยวโลกจะฟื้นคืนสู่สภาวะก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้จนกว่าอย่างน้อยคือในปี 2567
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 19 มกราคม 2565