แม้จะเผชิญกับแรงต้านจากชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐอเมริกา แต่การเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิกปิกฤดูหนาวในปี 2022 ของจีน นอกจากจะเป็นโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาประเทศแล้ว ยังเป็นจังหวะที่ดีที่จีนจะสามารถทดสอบระบบเงินดิจิทัลหยวนในสถานการณ์จริง

 

เว็บไซต์ข่าว Al Jazeera รายงานว่า การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ ตรงที่รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ผู้เข้าร่วมทั้งหมดราว 11,000 คนใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน e-CNY ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานเงินดิจิทัลหยวนในการซื้อขายสินค้า นับเป็นโอกาสอันดีที่จีนจะได้ทดสอบการใช้งานดิจิทัลหยวนกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างแท้จริง ก่อนที่จะบังคับใช้อย่างจริงจัง

 

ก่อนหน้านี้สังคมจีนส่วนใหญ่ก็เริ่มมีแนวโน้มเป็นสังคมไร้เงินสดอยู่ก่อนแล้ว เห็นได้จากการที่ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่นิยมจ่ายผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Alipay หรือ WeChat Pay แต่ระบบดังกล่าวกลับเข้าไม่ถึงชาวต่างชาติสักเท่าไรนัก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมักมีปัญหากับการจ่ายเงินในจีน โดยเฉพาะในกรณีที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าเล็กๆ ในท้องถิ่น หรือใช้บริการโดยสารแท็กซี่

 

เคร็ก ซิงเกิลตัน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของมูลนิธิเพื่อปกป้องประชาธิปไตย หรือ Foundation for Defense of Democracies กล่าวว่า โอลิมปิกคือโอกาสที่จีนจะได้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ใช้เงินดิจิทัลหยวนในสถานการณ์จริง ขณะที่ ริชาร์ด ทูร์ริน ที่ปรึกษาทางธุรกิจในนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า แม้จะเป็นสังคมไร้เงินสด แต่ระบบดังกล่าวกลับไม่ครอบคลุมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้นโอลิมปิกฤดูหนาวจึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการทดสอบระบบเงินดิจิทัลหยวน เพื่อปูทางให้จีนสามารถนำไปใช้ได้ทั่วประเทศต่อไป รวมถึงเปิดทางให้ชาวต่างชาตินำมาใช้งานด้วย

 

ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาทางธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เปิดเผยตัวเลขยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน e-CNY ซึ่งมีมากกว่า 261 ล้านครั้ง ขยับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวนับตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อเดือนตุลาคม 2021 หลังผ่านการทดสอบใช้งานจริงในหลายพื้นที่หลายครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งประเมินว่าเงินดิจิทัลหยวนอาจไม่ได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติอย่างที่คาดหวังไว้ เนื่องจากปัญหาเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว และการเดินหน้ากำกับดูแลเอกชนและเทคโนโลยี

 

ด้านเว็บไซต์ข่าว Global Times ของทางการจีน เปิดเผยรายงานการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลตรุษจีน หรือ Spring Festival ในปี 2022 ซึ่งพบว่าภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยปีนี้อยู่ในเกณฑ์ดี และการใช้จ่ายส่วนใหญ่มากจากช่องทางออนไลน์ กล่าวคือ ในขณะที่การใช้จ่ายช่องทางออฟไลน์ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การใช้จ่ายบนโลกออนไลน์กลับขยายตัวเติบโตขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีหิมะและน้ำแข็ง ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย เนื่องจากได้แรงหนุนสำคัญจากการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูนาว

 

ทั้งนี้ ในช่วง 5 วันแรกของเทศกาลตรุษจีน คือตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์มีการทำธุรกรรมมากกว่า 6,236 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.20 ล้านล้านหยวน และเฉพาะในวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเป็นคืนก่อนเข้าวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน มีปริมาณการเทรดสูงสุดทุบสถิติที่ 1.67 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากวันเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 13.08 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การใช้จ่ายออนไลน์สถิติสูงสุดที่ 71,4000 ครั้งต่อวินาที

 

ทั้งนี้ กำลังการใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนให้มีการขยายตัวเติบโต โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า ทิศทางการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนสามารถเป็นภาพสะท้อนให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของจีนตลอดทั้งปีได้

 

ที่มา the standard

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565