สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (CAS) คาดว่า ในปี 2565 มีแนวโน้มสูงที่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจะมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตประมาณร้อยละ 5.5 ในปี 2565 นอกจากนี้ ยังได้แนะนำให้กำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกระทบผู้ประกอบการให้น้อยที่สุด รวมทั้งปรับแก้แนวปฏิบัติของโรงงานต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านคาร์บอน เช่น การตัดไฟฟ้าหรือการจํากัดเวลาการทํางานของโรงงานที่มีกระบวนการทำงานที่ไม่เหมาะสม

 

นอกจากนี้ ในปี 2565 จีนยังมีแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้ทยอยจัด ‘กปช. สองสภาฯ’ โดยส่วนมากได้กําหนดเป้าหมายอัตราเติบโตของ GDP ปี 2565 ในระดับต่ำกว่าอัตราเติบโตของปี 2564 แต่สูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ของปี 2563 – 2564 เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนและต่างประเทศ รวมทั้งเน้นย้ำคุณภาพของการพัฒนาเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สําหรับปี 2565 มณฑลส่วนมากกําหนดให้การขยายตัวของการลงทุนและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมี 23 มณฑล/มหานคร เช่น กรุงปักกิ่ง มณฑลหูเป่ย และมณฑลอันฮุย ได้กําหนดให้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในภารกิจสําคัญ 3 อันดับแรกของงานด้านเศรษฐกิจ ในปี 2565

 

สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศจีน (SAFE) เผยว่า ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565 จีนมีทุนสํารองเงินตรา ต่างประเทศ อยู่ที่ 3.22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.88 หรือลดลง ราว 2.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากเดือนธันวาคม 2564 ทั้งนี้ SAFE ระบุว่า การปรับตัวลดลงของทุนสํารองเงินตราต่างประเทศของจีน เกิดจากผลกระทบของปัจจัยต่าง ๆ เช่น ดัชนีค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น และราคาสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง

 

ด้านธุรกิจ การค้า และการลงทุน คณะรัฐมนตรี ได้จีนอนุมัติการจัดตั้งเขตทดลองการค้า Cross Border E-Commerce (CBEC) เพิ่มเติมใน 27 เมืองของจีน เช่น เมืองออร์ดอส เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และเมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู เพื่อผลักดันการพัฒนาคุณภาพสูงของการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ก่อนการอนุมัติจัดตั้งในครั้งนี้ จีนได้จัดตั้งเขตทดลอง CBEC มาแล้ว 5 ครั้งจํานวน 105 แห่งทั่วจีนตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ยิ่งไปกว่านั้น กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน เผยว่า ในช่วงวันหยุดตรุษจีนปี 2565 (วันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2565) จีนมีจํานวนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ อยู่ที่ 251 ล้านครั้ง ลดลงร้อยละ 2 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 และลดลงร้อยละ 26.1 จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ในขณะเดียวกัน จีนมีรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศรวมกว่า 2.89 แสนล้านหยวน ลดลงร้อยละ 3.9 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 ทั้งนี้ ในช่วงวันหยุดดังกล่าว นักท่องเที่ยวจีนนิยมท่องเที่ยวในเขตชานเมืองและเมืองใกล้เคียง เพื่อเยี่ยมครอบครัวและเพื่อน

 

อย่างไรก็ดี ผลสํารวจผู้บริโภคจีนจํานวน 2,011 คน ในช่วงวันหยุดตรุษจีนปี 2565 พบว่า ร้อยละ 93.8 มีการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงวันหยุดตรุษจีน โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ของขวัญวันตรุษจีน (ร้อยละ 73.1) ของใช้ในชีวิตประจําวัน (ร้อยละ 72) เครื่องสําอาง (ร้อยละ 45.2) เวชภัณฑ์ป้องกันเชื้อโรค (ร้อยละ 33.5) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ร้อยละ 29.7) นอกจากนี้ ผู้บริโภคจีนมีความพึงพอใจกับร้านค้าออนไลน์ที่ส่วนหนึ่งเปิดให้บริการเป็นปกติในช่วงวันหยุดตรุษจีน พร้อมแนะนำให้แก้ไขปัญหาการจัดส่งของล่าช้า

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

 

ที่มา globthailand

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565