ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กล่าวชื่นชมผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของซาอุดิอาระเบียในเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งความประทับใจต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของซาอุดิอาระเบียในตลอดกว่า 5 ปีที่ปฏิบัติแผนการ “วิสัยทัศน์ 2030”

 

นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้ทั้งสองประเทศผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ขยายความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ การพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ

 

สำหรับความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้ซาอุดิอาระเบียยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเวียดนาม เพิ่มการนำเข้าสินค้าการเกษตรของเวียดนามและเปิดตลาดสำหรับสินค้าระหว่างกัน อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามในการเข้าร่วมโครงการให้บริการด้านปิโตรเลียมในซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น รวมทั้งมีมาตรการที่จำเป็นเพื่อค้ำประกันความปลอดภัยและสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของแรงงานเวียดนามในซาอุดิอาระเบีย

 

ส่วนเจ้าชาย Faisal Bin Farhan Al Saud รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียได้เห็นด้วยกับข้อเสนอเหล่านี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม โดยถือเป็นขั้นตอนต่างๆเพื่อกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่า จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและสำนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติขั้นตอนต่างๆยกระดับประสิทธิภาพของความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

 

ที่มา vovworld.vn

วันที่ 17 มีนาคม 2565