"สุพันธุ์" จี้รัฐฟื้นมาตรการภาษี บูมโรงงานติดโซลาร์ลดค่าไฟแพง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ 23.38 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟรวมทั้งสิ้น 4 บาทต่อหน่วย ว่า ผลจากการประกาศขึ้นค่าไฟดังกล่าวแน่นอนว่าส่งผลกระทบทางตรงต่อประชาชนผู้ใช้ไฟ และภาคธุรกิจทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ใช้ไฟจำนวนมากเพื่อประกอบกิจการ อาทิ เหล็ก ปิโตรเคมี การผลิตขั้นต้น จนอาจทำให้ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจขึ้นราคาสินค้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากประเด็นราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากราคาพลังงานโลก ผู้ประกอบการจึงมีความเข้าใจเหตุผลความจำเป็นในการปรับขึ้นราคา ดังนั้นอยากเสนอให้ภาครัฐมีนโยบายด้านภาษีออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพราะมาตรการลักษณะจะช่วยบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนค่อนข้างมากจากราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น
มาตรการที่อยากเสนอให้ภาครัฐดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าใช้เอง เน้นพลังงานหมุนเวียน อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงาน หรือโซลาร์รูฟท็อป พร้อมกำหนดสิทธิประโยชน์ภาษีให้ผู้ประกอบการสามารถนำโครงการลงทุนไปขอลดหย่อนภาษีได้ หรือเป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในภาคอุตสาหกรรม โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กำหนดสิทธิประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาบีโอไอเคยมีมาตรการส่งเสริมแล้วแต่หมดอายุมาตรการลง จึงอยากให้ฟื้นมาตรการดังกล่าวเพื่อสนับสนุนผู้ลงทุนรายใหม่ รวมทั้งต่ออายุสำหรับรายเก่าที่อยากจะขยายการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน
“รูปแบบนี้จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ทำให้สภาพแวดล้อม คุณภาพอากาศดีขึ้น ซึ่งรูปแบบไม่ยากเลย เพียงแต่รัฐต้องเห็นถึงความจำเป็นและฟื้นมาตรการสนับสนุนดังกล่าว เพราะในมุมของผู้ประกอบการเอง ทั้งภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนภาคบริการ โรงแรม ศูนย์การค้า หรืออาคารเอกชนต่างๆ มีพื้นที่หลังคาที่สามารถติดตั้งโซลาร์ผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ เพียงแต่รัฐต้องกระตุ้น ใช้ภาษีเป็นเครื่องมือในการส่งเสริม เป็นมาตรการที่สามารถทำได้ทันที เพราะเคยสนับสนุนในอดีต ขณะเดียวกันก็ควรสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปติดตั้งโซลาร์บนหลังคาบ้านเช่นกัน แต่อาจต้องมีมาตรการจูงใจเยอะหน่อย เพราะประชาชนอาจมีข้อกำจัดด้านวงเงินลงทุน”นายสุพันธุ์กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 19 มีนาคม 2565