นายกฯสิงคโปร์เตือน โลกอาจเจอเศรษฐกิจถดถอยใน 2 ปีข้างหน้า
“ลี เซียนลุง” โชว์วิสัยทัศน์ แนะสิงคโปร์ควรเตรียมพร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ที่อาจเกิดขึ้นได้ใน 2 ปีข้างหน้า
วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 บลูมเบิร์กรายงานว่า ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวในตอนหนึ่งของสุนทรพจน์เนื่องในวันแรงงานสากล โดยระบุว่า สิงคโปร์ต้องเตรียมพร้อมรับความท้าทายทางเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ยังคงจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ธนาคารกลางหลายชาติกำลังปรับนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น พร้อมเตือนว่า ด้วยสภาวะเช่นนี้ โลกอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ภายใน 2 ปีข้างหน้า
นายกสิงคโปร์กล่าวว่า สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่มีแนวโน้มยืดเยื้อจะทำให้มุมมองอันสดใสด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังโควิดของสิงคโปร์ “ริบหรี่ลง” โดยสิงคโปร์ควร “มองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังสำหรับการเริ่มต้นในปีนี้”
“ชาวสิงคโปร์รู้สึกถึงผลกระทบจากสงครามยูเครนที่มีต่อค่าครองชีพแล้ว … สิงคโปร์ต้องเผชิญกับความเสียหายราว 8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี จากราคาพลังงานที่สูงขึ้น”
คำกล่าวของนายกฯสิงคโปร์ สอดคล้องกับท่าทีของบรรดาผู้บริหารเอกชน และนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก ซึ่งเคยออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอย หลังรัสเซียรุกรานยูเครน นอกเหนือจากปัจจัยการระบาดของโควิดในประเทศจีน ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางสิงคโปร์คาดการณ์ตัวเลข GDP เศรษฐกิจทั่วโลกในระดับไม่เกิน 3.9% ในปี 2022 ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งเคยคาดว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2022 อาจโตได้ราว 5.4% จากอัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับที่เร็วที่สุดในรอบ 14 ปี
ทั้งนี้ แม้สิงคโปร์จะมีแนวทางเปิดเมืองและคลายล็อกการคุมโควิดอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่ออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ทว่าสิงคโปร์ยังคงเจอปัญหาขาดแคลนแรงงาน และคอขวดห่วงโซ่อุปทานที่ยังเป็นปัจจัยกดดันให้เศรษฐกิจสิงคโปร์อยู่ แบงก์ชาติสิงคโปร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ระหว่าง 2.5% ถึง 3.5% ในปีนี้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจอยู่ในช่วง 4.5% ถึง 5.5% จากแนวโน้มการเติบโตของราคาสินค้าที่พุ่งสูง
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 1 พฤษภาคม 2565