เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน สหราชอาณาจักรและไทยมุ่งเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าในการประชุมหารือคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าเป็นครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน โดยสหราชอาณาจักรและไทยตกลงที่จะพัฒนาความร่วมมือ Enhanced Trade Partnership (ETP) ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าในหลายภาคส่วน และในฐานะประเทศคู่เจรจาอาเซียน (ASEAN Dialogue Partner) รายใหม่ สหราชอาณาจักรมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกมากขึ้น

 

สหราชอาณาจักรและไทยจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสในการผลักดันการค้าทวิภาคี รวมถึงการขจัดอุปสรรคทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจของทั้งสองประเทศ

 

นางเพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายการค้าสหราชอาณาจักร ให้การต้อนรับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการเยือนสหราชอาณาจักรเพื่อการประชุมในครั้งนี้

 

ในการประชุม JETCO สหราชอาณาจักรและไทยได้ลงนามจัดตั้งโครงการความร่วมมือเพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า โดยมีประเด็นที่สำคัญได้แก่ การค้าดิจิทัล การเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม สุขภาพ และบริการด้านการเงิน

 

รัฐมนตรีทั้งสองท่านเห็นพ้องที่จะพัฒนาความร่วมมือ Enhanced Trade Partnership (ETP) ซึ่งจะเปิดตัวโครงการที่ยกระดับความร่วมมือเพื่อเพิ่มการค้าในหลายภาคส่วนรวมไปถึง ความร่วมมือด้านนโยบายการค้า การแก้ไขอุปสรรคทางการค้า และการส่งเสริมธุรกิจและกิจกรรมทางการค้าในหลากหลายภาคส่วน

 

เพนนี มอร์ดอนท์ รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายการค้าสหราชอาณาจักร กล่าวว่า “โครงการความร่วมมือต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะช่วยสนับสนุนธุรกิจต่างๆ อาชีพ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสหราชอาณาจักรและประเทศไทย นับเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีของทั้งสองประเทศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

 

การกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคอาเซียนนั้น คือการปูทางสู่ ETP หรือความร่วมมือเชิงลึกในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อบทบาทของสหราชอาณาจักรในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”

ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหราชอาณาจักร โดยมีมูลค่าการค้ารวมเกือบ 5 พันล้านปอนด์ในปี 2564 การประชุม JETCO ระหว่างสหราชอาณาจักร-ไทย ครั้งแรกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรที่ต้องการมีส่วนร่วมทางการค้าและกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ในฐานะประเทศคู่เจรจาอาเซียน (ASEAN Dialogue Partner) รายใหม่ สหราชอาณาจักรจะร่วมงานกับภูมิภาคนี้ผ่านการเจรจาในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงกับประเทศไทยด้วยเช่นกัน

หลังการประชุม JETCO สหราชอาณาจักรและไทยจะมีการหารือเชิงยุทธศาสตร์ (The United Kingdom-Thailand Strategic Dialogue) ครั้งที่ 4 ในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ

 

มาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การประชุมครั้งแรกของ JETCO ถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศไทย ซึ่งเราได้ตกลงกันในการดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มการค้าระหว่างสองประเทศในภาคส่วนที่มีความสำคัญเร่งด่วน ผมเฝ้ารอที่จะดำเนินการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากเราทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจและมอบสินค้าและบริการให้กับประชาชนและธุรกิจต่างๆ ที่จำเป็น”

 

แซม ไมเออร์ รองผู้แทนการค้าสหราชอาณาจักรประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ผมดีใจที่สหราชอาณาจักรและประเทศไทยได้จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าขึ้นเป็นครั้งแรกในวันนี้ ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหราชอาณาจักร เนื่องด้วยความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีมูลค่าเกือบ 5 พันล้านปอนด์ในปีที่แล้ว และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังเจริญเติบโต ดังนั้น ในฐานะคู่เจรจารายล่าสุดของอาเซียนในรอบ 25 ปี เราจะยังคงกระชับความสัมพันธ์กับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนเครือข่ายการค้าและธุรกิจของเราไปสู่ระดับที่สูงขึ้นต่อไป”

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 22 มิถุนายน 2565