"จีน-ไทย" ปักหมุดสร้างระเบียงเศรษฐกิจ 3 ประเทศ
"หวัง อี้" มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน เดินทางเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 4 - 5 ก.ค.โดยพบปะหารือกับ "ดอน ปรมัตถ์วินัย" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือของไทยและจีนแบบรอบด้าน
ภายหลังทั้งสองได้แถลงข่าวร่วมกัน ดอนกล่าวว่า ไทยและจีนพร้อมมองไปข้างหน้าร่วมกัน ทั้งรับรู้ว่าจะต้องเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาในหลายๆประการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกเพื่อขนส่งสินค้าและลดอุปสรรคการค้าระหว่างกัน
ด้านหวัง กล่าวว่า ถึงแม้สถานการณ์ทั่วโลกมีความวุ่นวายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนยังยั่งยืนและต่อเนื่อง และระหว่างการพบปะกันครั้งนี้ หวังยังยืนยันถึงมิตรภาพและมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือที่ลึกซึ้ง ซึ่งฝ่ายไทยและจีนได้เห็นชอบในหลายเรื่อง โดยมีเป้าหมายดังนี้
(1)สร้างประชาคมแห่งอนาคต ที่มีความหมายต่อประชาชนจีนและไทย ที่จะเป็นแนวทางในการร่วมมือกันพัฒนาเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป ในฐานะที่จีนและไทยเป็นพี่น้องไม่ใช่อื่นไกลเป็นพี่น้องกัน จะทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งสองประเทศในด้านการพัฒนาระหว่างกัน
(2)สร้างระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมจีน ลาว และไทย นำไปสู่การเชื่อมสายแถบและเส้นทางเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ ซึ่งจะขยายความร่วมมือไปทุกทิศทาง โดยเฉพาะทางใต้จะนำการลงทุนไปถึงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ขณะที่ทางเหนือจะนำการค้าและสินค้าไทย ส่งต่อไปยังลาวและยูนานส่งต่อไกลไปถึงยุโรป ผ่านแถบเศรษฐกิจแยงซี (Yangtze Corridor)
เป้าหมายของไทยและจีนต้องการผลักดันการขนส่งการค้าการลงทุนเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ 3 ประเทศ ในการสร้างสายแถบและเส้นทางเพื่อการพัฒนาให้ประชาชนทั้งสามประเทศได้ประโยชน์อย่างแท้จริง โดยที่สินค้าไทยจะสามารถเข้าถึงตลาดจีนและส่งต่อไปไกลถึงยุโรป
(3)ทั้งสองเห็นชอบความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเสริมสร้างการมีบทบาททางไซเบอร์ทั่วโลก ซึ่งไทยเป็นประเทศสำคัญที่เป็นผู้นำประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องนี้
นอกจากนี้ จีนและไทยเห็นชอบจะร่วมมือกันปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในทุกวิถีทางเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
(4)จีนสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open. Connect. Balance.” และหวังว่า ข้อริเริ่มของไทยจะการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมให้กับ 21 เขตเศรษฐกิจ
โดยจีนมองว่า การประชุมนี้ถือว่า มีความสำคัญเพราะเป็นการจัดประชุมแบบพบหน้ากันเต็มรูปแบบ (physical meeting) เป็นครั้งแรกหลังการแพร่ระบาดใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการการพัฒนาในกรอบเอเปค
จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอเปคจะโฟกัสกับการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และการขับเคลื่อนการจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) ตามที่ได้มีการบรรจุเป้าหมาย FTAAP ไว้ในวิสัยทัศน์ปุตราจายาของเอเปคว่าจะทำให้สำเร็จในปี 2040
หวัง กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปค จีนอยากเห็นไทยมีบทบาทสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในกรอบเอเปกจะสร้างความคึกคักที่นำไปสู่การดำเนินตามแผนการพัฒนาเอเปคที่ยั่งยืน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 6 กรกฏาคม 2565