"ททท." มั่นใจต่างชาติเที่ยวไทยเข้าเป้า 10 ล้านคน หลังเห็นสัญญาณโตกว่า 1,840%
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เริ่มดีขึ้นโดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส ทำให้มั่นใจว่าทั้งปี 2565 จะสามารถกระตุ้นให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยได้ถึง 10 ล้านคนแน่นอน และจากการที่คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) เพิ่งมีมติให้ขยายระยะเวลาพำนักในไทยให้กับชาวต่างชาติที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าให้อยู่ในไทยได้นานขึ้นจากไม่เกิน 30 วันเป็นไม่เกิน 45 วัน และขยายเวลาให้กับผู้ที่มาขอวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival) จากไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 จะผลักดันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยูาพำนักในไทยนานขึ้น และมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ ประเมินว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคมนี้ การเดินทางมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 จะดีขึ้นแน่นอน โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 7.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1,840% สร้างรายได้ 4.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,113% แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวอาเซี่ยน จำนวน 3.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11,074% สร้างรายได้ 1.14 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,256% นักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศยุโรปจำนวน 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 580% สร้างรายได้ 1.19 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 462% นักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ จำนวน 9.89 แสนคน เพิ่มขึ้น 8,628% สร้างรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,331%
นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 8.3 แสนคน เพิ่มขึ้น 2,400% สร้างรายได้ 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,853% นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางจำนวน 4.49 แสนคน เพิ่มขึ้น 1,516% สร้างรายได้ 3.98 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,315% นักท่องเที่ยวอเมริกาจำนวน 2.57 แสนคน เพิ่มขึ้น 531% สร้างรายได้ 1.91 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 417% นักท่องเที่ยวโอเชียเนียจำนวน 2.34 แสนคน เพิ่มขึ้น 2,274% สร้างรายได้ 1.84 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,003% และนักท่องเที่ยวแฟริกาจำนวน 2.75 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 1,043% สร้างรายได้ 1.88 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 762%
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้จนถึงเดือนธันวาคม 2565 คาดว่าจะมีนักนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาที่ 7.5 ล้านคน ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 1,840% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 400,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,113% โดยมีปัจจัยสนับสนุนโดยเฉพาะมีการเปิดเที่ยวบินใหม่และการกลับมาเปิดเที่ยวบินที่เคยระงับทำการบินในช่วงการระบาดโควิด อาทิ เส้นทางบินที่มาจากภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และเอเชียใต้
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า รวมถึงมีการผ่อนคลายมาตรการขากลับเข้าประเทศของตลาดในภูมิภาคอเมริกา เอเชียและแปซิฟิกใต้ช่วยให้บรรยากาศในการเดินทางเข้าไทยผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ มีการยกเลิกใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศจีน และกรมการบินพลเรือนของจีน อนุญาตให้สายการบินประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย สามารถบินเข้าประเทศจีนได้สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ด้านฮ่องกง ลดเวลากักตัวในโรงแรมเหลือ 3 วัน จากเดิม 7 วัน และสังเกตตนเอง 4 วัน ทั้งยังมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านผ่านด่านชายแดนทางบกของไทยทั่วประเทศด้วย
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เรายังคงต้องติดตามประเด็นสำคัญที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของนักท่องเที่ยวคือ สถานการณ์การโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยทั้งในไทยและในต่างประเทศ แนวโน้มการระบาดโรคฝีดาษลิงลุกลามไปหลายประเทศทั่วโลก อาจทำให้มีการกลับมายกระดับมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศเข้มงวดขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อและไม่มีที่ท่ายุติ อาจส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ราคาน้ำมันและอาหารปรับตัวสูงขึ้น ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้จ่ายเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ อาทิ กรณีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐ-จีน อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นและบรรยากาศการเดินทางหากสถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 22 สิงหาคม 2565