เศรษฐกิจยุโรปเผชิญภาวะถดถอยเหตุค่าครองชีพสูงมาก
เศรษฐกิจกลุ่มประเทศในยุโรป หรือกลุ่มที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรโซน) กำลังก้าวสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากผลกระทบของค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นและทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่สดใส ที่ทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศเหล่านี้ระมัดระวังในการใช้จ่าย
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้สอบถามทัศนะของนักเศรษฐศาสตร์เมื่อวันจันทร์(5ก.ย.)โดยเกือบครึ่งหนึ่ง คาดว่า เพื่อสกัดความร้อนแรงของเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซน ที่พุ่งทะยานทำสถิติที่ระดับ 9.1% เมื่อเดือนสิงหาคม ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่การสำรวจอื่น ๆ ชี้ว่าจะปรับขึ้นในระดับ 0.5% เท่านั้น
การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของอีซีบีมาในจังหวะที่เศรษฐกิจยุโรป มุ่งหน้าเข้าสู่ทิศทางขาลง ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 1 ดอลลาร์แลกได้ 99 เซนต์ เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเมื่อวันจันทร์ หลังจากรัสเซียตัดการจ่ายก๊าซผ่านท่อส่งสำคัญของยุโรปอย่างไม่มีกำหนดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ดันราคาเชื้อเพลิงพุ่ง 30% ในวันจันทร์ ท่ามกลางความกังวลเรื่องการขาดแคลนพลังงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในฤดูหนาวปีนี้ ที่ภาคธุรกิจและครัวเรือนทั่วยุโรปต้องรับมือกับราคาพลังงานที่พุ่งสูงทะลุเพดาน
ด้าน S&P Global เผยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หรือ PMI ที่เป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ ร่วงลงมาที่ระดับ 48.9 ในเดือนสิงหาคม ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งในทัศนะของปีเตอร์ ชาฟฟริก จากโรยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา ระบุกับรอยเตอร์ว่า ดัชนีนี้สะท้อนว่าทิศทางเศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยเร็วกว่าคาด ขณะที่กิจกรรมภาคธุรกิจและภาคบริการของเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ เข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนส.ค.
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจเอเชีย ในการสำรวจของรอยเตอร์ บ่งชี้ว่า มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในภาคบริการของจีนและอินเดีย ขณะที่ภาคบริการของญี่ปุ่นหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบห้าเดือน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 6 กันยายน 2565