ผู้บริโภคจีน…ยุคประหยัด ตลาด "สินค้ามือสอง" บูม
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า "เศรษฐกิจจีน" จะเติบโตช้ากว่าชาติอื่นในเอเชียเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี เป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของจีน พร้อมกับภาพพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนที่เริ่มเปลี่ยนไป ที่ต้องการสินค้าราคาถูกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้ช่วงปีนี้ตลาดสินค้า “มือสอง” ในประเทศจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า ตลาดสินค้ามือสองของจีนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น พร้อมกับการขยายตัวของช่องทางขายผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋า ขณะเดียวกันก็มีมุมมองที่ดีต่อสินค้ามือสอง และเชื่อมั่นในตลาดอีคอมเมิร์ซในฐานะช่องทางการซื้อขายสินค้ามือสองที่เป็นของแท้และมีคุณภาพมากขึ้น
โดยสินค้ามือสองที่เป็นที่นิยมมีตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนม โดยรายงานวิจัยของมหาวิทยาลัยชิงหวาร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Frost & Sullivan ระบุว่า มูลค่าการค้าสินค้ามือสองจีนทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ คาดว่าจะแตะระดับ 3 ล้านล้านหยวนภายในปี 2025
ขณะที่รอยเตอร์สรายงานว่า “ZZER” ผู้ให้บริการซื้อขายสินค้าแบรนด์หรูมือสอง ทางทั้งช่องทางหน้าร้านและอีคอมเมิร์ซในจีน เปิดเผยว่า มีจำนวนผู้ขายสินค้าแบรนด์หรูมือสองที่ลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 40% และคาดว่าจะมีสินค้าแบรนด์หรูมือสองถูกขายผ่าน ZZER ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านชิ้นในปีนี้
ก่อนหน้านี้ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนเติบโตก้าวกระโดด ชาวจีนมีการใช้จ่าย และสะสมสินค้าส่วนเกินไว้จำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์หรูที่มีความนิยมในการซื้อรุ่นใหม่อยู่เสมอ ทำให้ของสะสมหลายชิ้นแทบจะยังไม่ผ่านการใช้งาน
“เผิง จื้อเหว่ย” นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ huaon.com ระบุว่า กระแสการบริโภคนิยมของชาวจีนที่มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีสินค้าส่วนเกินมากมาย และกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันในตลาดสินค้ามือสองของจีนเติบโตขึ้นในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
แม้ว่าปกติแล้วสินค้าแบรนด์หรู ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า นาฬิกา และเครื่องประดับ ที่เป็นเสมือนของสะสมจะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป แต่การที่มีผู้นำออกมาขายเป็นสินค้ามือสองจำนวนมาก โดยเฉพาะผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ทำให้มูลค่าของสินค้าบางกลุ่มลดลง อย่างกระเป๋า Prada Messenger หรือ Fendi Baguette ที่มีราคาขายมือสองต่ำกว่าหน้าร้านราว 30%-40% ตามข้อมูลของ ZZER
แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ iResearch ที่ประมาณการว่า ตลาดสินค้าหรูหรามือสองของจีนจะขยายตัวเป็น 216,000 ล้านหยวนภายในปี 2025 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากราว 58,000 ล้านหยวนในปี 2020
การขยายตัวของตลาดสินค้ามือสองจีนยังได้รับแรงหนุนสำคัญ จากการยกระดับความโปร่งใสในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าแบรนด์หรูมือสองของจีนเปิดตัวมากมาย เช่น Feiyu, Ponhu และ Plum ขณะที่ ZZER ก็เตรียมเปิดร้านสาขาเพิ่มในอีกหลายเมืองของจีน
ข้อมูลบริษัทวิจัยการตลาด 100ec.cn ชี้ว่า ปัจจุบันมีผู้ซื้อสินค้ามือสองผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซในจีนมากกว่า 243 ล้านคน โดยมีมูลค่าธุรกรรมมากถึง 240,120 ล้านหยวน ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และคาดว่าจะแตะระดับ 480,240 ล้านหยวนในสิ้นปี เพิ่มขึ้นราว 20% จากปีก่อน แสดงให้เห็นเทรนด์การบริโภคของชาวจีนที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคที่ต้องรัดเข็มขัด
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 1 ตุลาคม 2565