เชื่อมโยงกรุงฮานอยกับเครือข่ายตัวเมืองอัจฉริยะ
กรุงฮานอยตั้งเป้าไว้ว่า จนถึงปี 2025 จะอยู่ในกลุ่มท้องถิ่นนำหน้าของประเทศเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล จนถึงปี 2030 ฮานอยจะเป็นเมืองอัจฉริยะ ทันสมัยและเชื่อมโยงกับเครือข่ายเมืองอัจฉริยะในภูมิภาคและทั่วโลกซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ทางการกรุงฮานอยได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และประชาชนในกรุงฮานอยกำลังได้รับประโยชน์จากกระบวนการนี้
ในการปฏิบัติระเบียบราชการ ขณะนี้ ชาวฮานอยเริ่มมีความคุ้นเคยกับการทำกิจกรรมหรือธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านทางออนไลน์มากขึ้น แอพพลิเคชัน VneID ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันที่พัฒนาโดยกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปที่มีข้อมูลประชากรและบัตรประจำตัวประชาชนได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง เช่น การลงทะเบียนทำหนังสือเดินทางออนไลน์ นาง มาย ดั่ง แทง แทง ในเขตโก่วไย้ กล่าวว่า
“ดิฉันเห็นว่า แอพพลิเคชั่น Vneid มีคนใช้ค่อนข้างเยอะ ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและประหยัดเวลาได้มาก”
สำหรับโรงพยาบาลก๊วยอวาย ในอำเภอ ก๊วยอวาย ชานเมืองฮานอย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่เกิดสถานการณ์ประชาชนที่มาใช้บริการแออัดที่บริเวณแผนกต้อนรับอีก เนื่องจากนำระบบ QR code มาใช้โดยผู้มาขอรับบริการแค่พกบัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดมาด้วยเท่านั้น นาย เหงียนวันเลิม ในอำเภอก๊วยอวาย กล่าวว่า เมื่อก่อนตอนไปหาหมอจะต้องนำบัตรประกันสุขภาพ สมุดตรวจสุขภาพและแสดงบัตรประจำตัวประชาชนด้วยเพื่อให้โรงพยาบาลตรวจข้อมูล แต่ปัจจุบัน ใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและเอกสารได้มาก
“ผมไปโรงพยาบาลหลายครั้ง แต่ครั้งนี้สะดวกเป็นอย่างมาก ผมไม่ต้องพกเอกสารต่าง ๆ ไปด้วย โดยพกไปแค่บัตรประชาชนอย่างเดียวเท่านั้น”
การใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดที่โรงพยาบาลก๊วกอวาย เกิดประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งต่อตัวผู้ป่วยและแพทย์ พยาบาลด้วย นาง จูถิมายฮวา พยาบาลแผนกตรวจโรค โรงพยาบาลก๊วยอวาย กล่าวว่า
“สำหรับพยาบาล สิ่งนี้ช่วยให้เราลดขั้นตอนการตรวจบัตรประกันสุขภาพและบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งทำให้ระยะเวลาการรอเข้ารับการตรวจของผู้ป่วยลดลง”
การใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดในการตรวจรักษาโรคสำหรับประชาชนที่มีบัตรประกันสุขภาพยังช่วยให้สำนักงานบริหารประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกบัตรและการบริหารบัตรประกันสุขภาพ สถานพยาบาล 573 แห่งจากทั้งหมด 736 แห่งทั่วกรุงฮานนอยได้ประยุตก์ใช้วิธีการนี้ นาง เหงียนถิต๊าม รองผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมฮานอยกล่าวว่า
“ปัจจุบัน มีสถานพยาบาล 573 แห่งในกรุงฮานอยที่ให้ประชาชนใช้เฉพาะบัตรประจำตัวประชาชนแบบชิปการ์ดในการขอรับการตรวจรักษา ซึ่งมีผู้ป่วยใช้บริการแล้วประมาณ 194,000 คน”
นาง เหงียนถิมายเฮือง รองผู้อำนวยการสำนักงานสื่อสารและประชาสัมพันธ์กรุงฮานอย รับผิดชอบการสร้างเมืองอัจฉริยะของเมืองหลวงระยะที่ 1 ช่วงปี 2018 – 2020 เผยว่า ฮานอยได้สร้างองค์ประกอบหลักของเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นเมืองที่เน้นสร้างสรรค์และพัฒนาพื้นฐานของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัล ฮานอยได้บรรลุก้าวกระโดดขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามแนวทางแบบบูรณาการ พร้อมเพรียงและใช้ระบบมาตรฐานที่สอดคล้องกับรูปแบบของทางการตัวเมือง จนถึงขณะนี้ ทางการกรุงฮานอยได้ใช้ซอฟต์แวร์ one stop service แบบใช้ร่วมกัน 3 ระดับ คือระดับตำบล/แขวง เขต/อำเภอและเมือง บริการสาธารณะออนไลน์ระดับ 3 และ 4 โดยระดับ 4 คือระดับสูงสุดสำหรับการทำระเบียบการเกือบ 1,700 รายการ บรรลุอัตรา 100% เชื่อมโยงบริการสาธารณะออนไลน์ 444 รายการเข้ากับเว็บไปซต์บริการสาธารณะแห่งชาติเพื่อให้บริการประชาชนและสถานประกอบการ
ทั้งนี้ ผลการแก้ไขเอกสารและข้อร้องเรียนที่ตรงเวลาหรือแล้วเสร็จก่อนกำหนดในกรุงฮานอยได้บรรลุกว่าร้อยละ 99 นาย เจิ่นสีแทง ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยกล่าวว่า
“การปฏิรูปต้องมีการเข้าร่วมของทั้งประชาชนและสถานประกอบการ จากก้าวกระโดดและความต้องการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ฮานอยกำลังปฏิบัติอย่างเข้มแข็งตั้งแต่ต้นสมัยจนถึปัจจุบัน ตั้งแต่พรรคสาขาไปจนถึงคณะกรรมการประชาชนได้ปฏิบัติแนวทาง นโยบายของรัฐบาลและส่วนกลางอย่างพร้อมเพรียง”
การเป็นเมืองอัจฉริยะภายในปี 2030 กำลังเป็นแนวทางที่ฮานอยกำลังมุ่งปฏิบัติเพื่อให้สมกับการเป็นเมืองหลวงของประเทศ การปรับตัวให้เข้ากับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เป็นสิ่งจำเป็นที่เร่งด่วนสำหรับฮานอยในการปลุกเร้าแหล่งพลังใหม่สำหรับการพัฒนาในเวลาข้างหน้า.
ที่มา : วีโอวี5-สถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนาม