ในปี 2022 ผลกระทบจากปัจจัยในทางลบ โดยเฉพาะ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นเนื่องจากการปะทะทางทหารระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้ทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความยากลำบากมากมาย โดยเศรษฐกิจของหลายประเทศตกเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่อย่างไรก็ตาม จากการมีพื้นฐานที่มั่นคงและนโยบายบริหารที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจภูมิภาคและโลก  

 

ตามรายงานสถิติอย่างเป็นทางการล่าสุดของทบวงสถิติสังกัดกระทรวงวางแผนและการลงทุน คาดว่า ในตลอดทั้งปี 2022 เศรษฐกิจของเวียดนามจะเติบโตในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่สภาแห่งชาติวางไว้คือร้อยละ 6-6.5

 

ก่อนหน้านั้น ในรายงานต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 15 เมื่อเดือนตุลาคมปี 2022 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า เศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2022 จะมีการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง บรรลุ 14 จากทั้งหมด 15 เป้าหมายทางเศรษฐกิจที่วางไว้ การเติบโตของจีดีพีอยู่ในระดับสูง และรายรับของประเทศจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

“เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อได้รับการควบคุม เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ความสมดุลที่สำคัญของเศรษฐกิจได้รับการค้ำประกันในสภาวการณ์ที่ประสบความยากลำบากมากมาย โครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและโครงการเป้าหมายแห่งชาติ 3 โครงการได้รับการชี้นำปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง แก้ไขอุปสรรคอย่างทันการณ์ สร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในการก่อสร้างกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศหลายโครงการ”

 

จุดเด่นของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2022 คือกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกสินค้า ถึงแม้การค้าโลกจะเผชิญความยากลำบาก แต่ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 7 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าปี 2021 ประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเกินดุลการค้ากว่า 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมแสดงความเห็นว่า ผลงานนี้มาจากนโยบายบริหารที่มีประสิทธิภาพของรัฐและความพยายามของชุมชนสถานประกอบการในการใช้ประโยชน์จากตลาดดั้งเดิม เช่น สหรัฐและจีน ควบคู่กับการขยายตลาดใหม่ๆ สถานประกอบการส่งออกเวียดนามยังได้ใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพจากข้อตกลงการค้าเสรีรุ่นใหม่ เช่น CPTPP EVFTA และ RCEP เป็นต้น นาย เจิ่นแทงหาย กล่าวว่า

 

“ก่อนอื่น เราได้รักษาความมีเสถียรภาพและฟื้นฟูการผลิตอย่างรวดเร็วหลังจากควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19  และการที่เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดและผลักดันการฟื้นฟูการผลิตหลังการแพร่ระบาดคือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญเพื่อสร้างแหล่งสินค้าสำหรับกิจกรรมการส่งออก 2 นี่คือช่วงเวลาที่ข้อตกลงการค้าเสรี โดยเฉพาะ ข้อตกลงการค้าเสรีรุ่นใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้และเกิดประสิทธิผล สำหรับตลาดที่เราไม่เคยมีข้อตกลง FTA เช่น แคนาดา เปรูและเม็กซิโก พลังขับเคลื่อนเพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดเหล่านี้ก็ดีมากเช่นกัน อีกเหตุผลหนึ่งคือความพยายามเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การค้าและการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการส่งออกอย่างเต็มที่ รวมถึงการส่งเสริมการค้า”

 

จุดเด่นอีกประการที่น่าสนใจของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2022 คือความสามารถในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะประสบความยากลำบากมากมาย แต่ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ยอดเงินทุน FDI ที่จดทะเบียนใหม่ เงินทุนปรับปรุงและการสมทบทุนเพื่อซื้อหุ้นในเวียดนามบรรลุกว่า 2 หมื่น 5 พัน 1 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะ การเบิกจ่ายเงิน FDI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรลุเกือบ 1 หมื่น  9  พัน 7 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเติบโตนี้มีความหมายมากขึ้นในสภาวการณ์ที่แหล่งเงินทุน FDI ทั่วโลกกำลังชะลอตัว

 

บรรดานักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจแสดงความเห็นว่า การรักษาเสถียรภาพในระดับมหภาคและความพยายามในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนเป็นข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของเวียดนาม ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าเชื่อถือสำหรับแหล่งเงินลงทุนและนักลงทุนต่างชาติ ดร. เลยวีบิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ผู้อำนวยการบริหารของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ Economica เวียดนามชี้ชัดว่า

 

“การเบิกจ่ายเงินลงทุนจากต่างประเทศถึงประมาณ 1 หมื่น 9 พัน 7 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบรรดานักลงทุนต่อเวียดนาม ยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2  เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจยังคงได้รับการเสริมสร้าง ผมคิดว่า ข้อมูลนี้มีความจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นในสภาวกการณ์ปัจจุบัน"

 

 

อัตราการเติบโตของ GDP ใน 9 เดือนแรกของปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี2011-2022

 

ในการประเมินเมื่อเร็วๆ นี้ องค์กรและสถาบันทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศหลายแห่งยังคงคาดการณ์และแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2022 และปีต่อๆ ไป รายงานล่าสุดของสมาพันธ์สถานประกอบการยุโรปในเวียดนามเผยว่า มีสถานประกอบการถึงร้อยละ 45 ที่ประเมินโอกาสทางธุรกิจในเวียดนามเป็นบวก และร้อยละ 42  คาดการณ์ว่า บริษัทของพวกเขาจะเพิ่มเงินทุน FDI ในเวียดนาม ในขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF และธนาคารโลกหรือ WB ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2022 จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 7.5  เช่นเดียวกับ WB ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดยังเพิ่มการคาดการณ์การเติบโต GDP ของเวียดนามในปี 2022 จากร้อยละ 6.7 เป็นร้อยละ 7.5 และคาดการณ์การเติบโตในปี 2023 เป็นร้อยละ 7.2  ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 7.0 ที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะ Nikkei Asia ประเมินว่า เวียดนามเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอยู่อันดับที่ 8 ของโลกเกี่ยวกับการฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนั้น เวียดนามได้รับการคาดหวังว่า จะกลายเป็นตลาดบริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลกภายในปี 2030

 

ความเห็นและการประเมินที่มีภาวะวิสัยขององค์กรที่มีชื่อเสียงระหว่างประเทศได้ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและให้กำลังใจต่อไปเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ภายในปี 2023 และเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจของภูมิภาคและโลกต่อไป.

 

ที่มา : วีโอวี5-สถานีวิทยุกระจายเสียงเวียดนาม