สยามพารากอน ปลื้มยอดขายลักชัวรีติดอันดับโลก ยกเครื่องใหญ่รอบ 17 ปี
สยามพารากอนทรานสฟอร์มครั้งใหญ่ในรอบ 17 ปี ทุ่ม 3,000 ล้านบาท ยกระดับแลนด์มาร์คระดับโลก สู่โลกแห่งอนาคต เผยยอดขายปี 65 เติบโตกว่า 50% ปลื้มลักชัวรีแบรนด์ยอดขายเติบโตติดอันดับโลก
สยามพารากอน ประกาศยุทธศาสตร์ตอกย้ำภาพลักษณ์จุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง กับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 17 ปี ยกระดับสู่แลนด์มาร์คระดับโลก พร้อมเผยโฉมใหม่ในกลางปี 67
นางสาวแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกและยังเป็น showcase ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้สินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่โดดเด่นสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ส่งผลให้สยามพารากอนเป็น Destination ของลักชัวรีแบรนด์อย่างแท้จริง อีกทั้งแบรนด์ดังๆ ได้ทยอยเปิดพื้นที่เป็น “Pop-up Store” เพื่อขาย ลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษเป็นครั้งแรกในเอเชียอยู่เสมอ
สร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า และตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้สยามพารากอนยังได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 6 ของสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวเช็คอินสูงสุดในโลกและเป็นสถานที่เดียวในไทยและเอเชียที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จากการจัดอันดับของ Facebook Review ในปี 2558 (Global Legendary Landmark)”
ทั้งนี้ในปี 2565 สยามพารากอนสามารถสร้างรายได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีจำนวนมากเทียบเท่าก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์ที่สามารถสร้างยอดขายและมีอัตราเติบโตที่สูงตลอดระยะเวลา 3 ปี สะท้อนจากบรรดาแบรนด์หรูมุ่งหน้าตลาดเมืองไทยเป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้มีความต้องการขยายพื้นที่และขยายสาขามากขึ้น สอดรับกับแผนการลงทุนปรับโฉมใหม่ของสยามพารากอน เพื่อต้อนรับลักชัวรีแบรนด์และแบรนด์ใหม่ๆ อีกนับร้อยแบรนด์ที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List โดยหลายแบรนด์จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีแบรนด์ที่ Exclusive เฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น เหล่านี้ล้วนตอกย้ำความเป็นเพชรน้ำงามของ Luxury Destination ระดับโลกอย่างแท้จริง
“นับตั้งแต่ปี 2564 สยามพารากอนได้เริ่มดำเนินการปรับโฉม ’พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์’ ไปแล้วหลายชั้นซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 นี้ ดังนั้นสยามพารากอนจึงทุ่มงบประมาณเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงพื้นที่ส่วนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา จะใช้เวลาภายใน 18 เดือนจากนี้ไปและมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2567”
ด้านนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ว่า นโยบายในการทำธุรกิจของเราคือ Collaborate to Win เราเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ที่จะมาร่วมผนึกกำลังเราสร้างธุรกิจให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ฉีกกฎและตำราเดิมๆ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
สยามพารากอนจะไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นแพลตฟอร์มเวทีระดับโลก ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ทั้งสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศิลปะ เทคโนโลยี รวมทั้งผนึกกำลังกับผู้ประกอบการลักซ์ซูรี่แบรนด์ทั่วโลก และผู้ประกอบการคนไทย มาร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) เชื่อมต่อแพลตฟอร์มทั้งบนพื้นที่ โลกกายภาพ (Physical World) โลกดิจิทัล (Digital World) ผ่าน OneSiam SuperApp และโลกเสมือนจริง (Metaverse) เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
“สยามพารากอนได้ต้อนรับคนทั่วโลกที่มาเยี่ยมเยือนทุกวัน เราจึงมุ่งหวังที่จะให้สยามพารากอนเป็นสถานที่สร้างคอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก เราจึงทำการศึกษาลงลึกกับกลุ่มลูกค้าที่กว้างที่สุด ให้สามารถตอบสนอง ความเชื่อ ความปรารถนาและความสนใจที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างแต่ตรงใจ ดังนั้นการทรานสฟอร์มสยามพารากอนในครั้งนี้ เราจะสร้างปรากฏการณ์แรกของการเปิดให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสยามพารากอนอีกด้วย
ดังนั้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ สยามพารากอนจะเปิดพื้นที่สาธารณะ เพื่อรับฟังไอเดียของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก ผ่านโครงการ Wall of Wonders ในรูปแบบ Interactive Wall ที่ลูกค้าสามารถแนะนำว่า ปรารถนาจะได้เห็นความแปลกใหม่ในรูปแบบใดในสยามพารากอน โดยจะได้นำความคิดเห็นจากผู้คนทั่วโลกมารังสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้มีความหลากหลายตรงกับความสนใจของผู้คนในแต่ละคอมมูนิตี้ผสานกับเทคโนโลยีที่ ล้ำสมัยที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในมิติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง ทั้งนี้จะแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดโครงการ Wall of Wonders ในเร็วๆ นี้” นางมยุรี กล่าว
สำหรับองค์ประกอบสำคัญของ สยามพารากอน – The Next Evolution มีดังนี้
1.จักรวาลใหม่แห่งการใช้ชีวิตสุดล้ำ (Universe of World’s Excellence) สยามพารากอนพลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘การร่วมกัน รังสรรค์’ หรือ Co-creation & Collaboration กับพันธมิตรผู้มีวิสัยทัศน์เป็นเลิศในทุกอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันสร้างมหาปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 21 และนำเสนอสิ่งที่โดดเด่นล้ำยุคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใดในวงการ ค้าปลีกของโลกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ยกระดับให้สยามพารากอนเป็นโครงการระดับโลกที่สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศอย่างแท้จริง
2.ประตูสู่ดินแดนใหม่ที่โลกดิจิทัลบรรจบกับโลกจริง (Gateway to Next Frontier Where Digital World Meets Physical World) สยามพารากอนจะเป็น Co-Creative แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (New Global Prototype) ในการผสานเชื่อมโยงโลกศูนย์การค้าที่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างที่จับต้องได้ เข้ากับจินตนาการของโลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริงได้อย่างกลมกลืนและไร้รอยต่อ เพื่อนำเสนอรูปแบบการชีวิตในโลกอนาคตแบบเหนือความคาดหมายและมอบประสบการณ์ทางกายภาพที่สอดประสานกับโลกเสมือนจริงที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแม็กเนตสำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน
3. มิติใหม่แห่งความลักชัวรี (Celebration of Inclusive Luxury) นับตั้งแต่การเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 17 ปี สยามพารากอนตอกย้ำความเป็นผู้นำครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย และเป็น Destination ของ Luxury Brand ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภทสมบูรณ์แบบที่สุด การพลิกโฉมประวัติศาสตร์ในครั้งนี้สยามพารากอนจะรังสรรค์นิยามใหม่ของความลักชัวรีในทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต (Luxury for All)
สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร การเดินทางท่องเที่ยว เทคโนโลยี การเงิน และประสบการณ์ เฉพาะตัวอย่างอื่นๆ ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกในโลกที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงความลักชัวรีได้ในหลากหลายมิติ ของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและสามารถเป็นการให้รางวัลชีวิตได้ในสถานที่แห่งนี้
4. ผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณภาพ (Pioneering Quality Life Experience) ส่วนสำคัญหนึ่งของโครงการทรานสฟอร์มสยามพารากอนครั้งนี้ รวมไปถึงสร้างโมเดลต้นแบบในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยการร่วมสร้างสรรค์กับพันธมิตรออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จะผสานเอาศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้ามาอยู่ในโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทาง เพื่อทำให้โลกใบนี้สะอาด จัดระบบในเรื่องการใช้พลังงานโดยการใช้นวัตกรรมต้นแบบในเรื่องต่างๆ
เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสู่ความยั่งยืน ยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีและวิถีชีวิตให้กับชุมชนและโลกในรูปแบบเหนือจินตนาการ สามารถใช้เวลาอยู่ในสยามพารากอนได้เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ และการควบคุมอุณหภูมิและอากาศที่มีสุขอนามัย รวมทั้งการบริหารก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
5.คอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก (The Paragon Community of Global Citizens) การยกระดับอีกมิติของการนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายทั้งในศูนย์การค้าและในโลกดิจิทัล จะเพิ่มศักยภาพให้สยามพารากอนขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นการเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน
โดยการสร้างพื้นที่ใหม่ๆเป็น cluster ที่มีสินค้า บริการ และกิจกรรมที่ตรงใจของคอมมูนิตี้ต่างๆ โดยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการสร้างคอมมิวนิตี้นั้นๆ ให้สามารถแบ่งปันความคิด ความสนใจ หรือทำกิจกรรมและสร้างงานร่วมกันค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างธุรกิจร่วมกันได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
นอกจากนี้ สยามพารากอนกำลังพัฒนาคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่อีกหลายรูปแบบ เพื่อนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโครงการ ทรานสฟอร์มสู่วิถีแห่งโลกอนาคต
“จากผลการวิจัยทุกครั้งพบว่า สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนกรุงเทพฯ ทุกเจนเนอเรชั่นรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคย ความผูกพันที่ยาวนานกับลูกค้าและกับผู้มาเยือนจากทั่วโลกตลอดช่วงเวลาเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา คือ อัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของสยามพารากอน
ดังนั้นในขณะที่เราเดินหน้าการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญ ไปสู่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศ ที่เต็มไปด้วยคำมั่นในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งน่าตื่นเต้นมากมาย แต่เราจะยังคงดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการดูแลและการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนบ้านหลังที่สองของลูกค้าของเรา อันเป็นหลักสำคัญที่ทำให้สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีโครงการใดเสมอเหมือนตลอดมา” นางสาวแคโรไลน์ กล่าว
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ