ไทยสวยไม่สร่าง! เดือนแรกต่างชาติหอบเงินลงทุนกว่า 5 พันล้าน คาดทั้งปี 66 ทะลุแสนล้าน

ไทยสวยไม่สร่าง! เดือนแรกต่างชาติแห่ซบ หอบเงินลงทุนกว่า 5 พันล้าน ญี่ปุ่นเต็งหนึ่ง คาดทั้งปี ’66 ทะลุแสนล้านแน่
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รายงานว่า เดือนมกราคม 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 52 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 30 ราย เงินลงทุน 5,129 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 298 คน
 
โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 14 ราย เงินลงทุน 3,588 ล้านบาท สิงคโปร์ 6 ราย เงินลงทุน 410 ล้านบาท สหรัฐ 6 ราย เงินลงทุน 9 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 5 ราย เงินลงทุน 98 ล้านบาท และ จีน 3 ราย เงินลงทุน 548 ล้านบาท รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย
 
เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ การสร้างแบบจำลองแบบ 3 มิติ และการทำงานของแดมเปอร์เฉพาะทางบนคอมพิวเตอร์ องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของระบบการให้บริการรายการโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (ไอพีทีวี) เป็นต้น
 
นายสินิตย์กล่าวา การลงทุนในพื้นที่อีอีซีของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่อีอีซี 8 ราย คิดเป็น 15% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุน 683 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของเงินลงทุนทั้งหมด
 
ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 5 ราย ลงทุน 632 ล้านบาท จีน 2 ราย ลงทุน 48 ล้านบาท และสหราชอาณาจักร 1 ราย ลงทุน 3 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 1.บริการทางวิศวกรรมด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจวิศวกรรมยานยนต์ 2.บริการเคลือบผิว (Surface Treatment) และ 3.บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโลหะและชิ้นส่วนพลาสติก เป็นต้น
 
“คาดว่าตลอดปี 2566 จะมีนักลงทุนชาวต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการลงทุนเพื่อขยายตลาด การปรับโครงสร้างการผลิตในประเทศต่างๆ ที่มีการขยายฐานการผลิตของธุรกิจต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย
 
โดยเฉพาะธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจเกษตร อาหาร ชีวภาพ ธุรกิจท่องเที่ยว สุขภาพ และธุรกิจดิจิทัลต่างๆ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” นายสินิตย์กล่าว
 
 
ที่มา : มติชน
 

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)