"กสิกรไทย" ตั้งเป้าธนาคาร 20 อันดับแรกใน "เวียดนาม" ดันรายได้โต 1.32 หมื่นล.
"กสิกรไทย" ตั้งเป้าธนาคารขึ้นชั้น 20 อันดับใน "เวียดนาม" ดันรายได้โต 1.32 หมื่นล. ดึงฐานลูกค้าพุ่ง 8.4 ล้านรายภายในปี 2570
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายชัช เหลืองอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเตรียมลุยธุรกิจธนาคาร และพร้อมมอบประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้แก่ชาวเวียดนาม ด้วยความชำนาญที่การันตีด้วยรางวัลทางการเงินในระดับภูมิภาค การมีแอพพลิเคชัน โมบาย แบงกิ้งอันดับ 1 ของประเทศไทยด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 19 ล้านคน รวมถึงการเป็นธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุด รวมทั้งมีเครือข่ายระดับภูมิภาคกับพันธมิตรกว่า 70 แห่ง ทั่วยุโรปและเอเชีย
จึงมั่นใจได้ว่าด้วยประสบการณ์ ศักยภาพ และมาตรฐานระดับสากลที่พร้อมมอบบริการทางการเงินด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญของธนาคารกสิกรไทยจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเวียดนามได้อย่างแน่นอน ตั้งเป้าหมายการเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม รายได้สุทธิถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.32 หมื่นล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 1.8 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้าเวียดนาม 8.4 ล้านรายภายในปี 2570
นายชัช กล่าวว่า การไปสู่เป้าหมาย 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570 ทั้งในแง่สินทรัพย์รายได้ และฐานลูกค้า ธนาคารกสิกรไทย จะเดินหน้ากลยุทธ์การให้บริการทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ(Transactional Ecosystem) เพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
โดยเริ่มตั้งแต่แอพพลิเคชัน K PLUS Vietnam ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมการเงินของผู้ใช้งานลื่นไหล สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นและระบบปฏิบัติการที่พัฒนาผ่าน บริษัท KBTG Vietnam (KASIKORN BUSINESS-TECHNOLOGY GROUP Vietnam) ให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนเวียดนามมากที่สุด เช่น การใช้เทคโนโลยี NFC (Near-Field Communication) เพื่อทำให้การอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนทำงานได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีLiveness Detection เพื่อตรวจจับและป้องกันการปลอมตัวบุคคลในขั้นตอนของการสมัครใช้งาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ธนาคารสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในเวียดนาม ด้วยการพัฒนาเครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด และรองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น บัตรเดบิตบัตรเครดิต และการแสกนจ่ายผ่าน QR Code ทุกประเภท และเพื่อให้การทำธุรกรรมของลูกค้าเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ
ทั้งนี้ ธนาคารเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นคือ บัตรเดบิต ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ารายย่อยในการทำธุรกรรมชำระเงิน และกดเงินสดโดยสามารถสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวก ด้วยแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam เมื่อได้รับการอนุมัติ บัตรเดบิตจะถูกส่งไปถึงบ้านของผู้สมัครถึงที่ ไม่ต้องไปดำเนินการที่ธนาคารอีกต่อไป
นายชัช กล่าวว่า สำหรับอีกกลุ่มลูกค้าที่ธนาคาร ให้ความสำคัญ คือ ลูกค้าองค์กร โดยสร้างเครือข่าย Internet Banking เพื่อให้องค์กรจัดการเงินสดและบัญชีเงินเดือนสำหรับพนักงานได้อย่างสะดวกและราบรื่น รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อดิจิทัล ด้วยผลิตภัณฑ์ KBank Biz Loan เพื่อเจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam และผลิตภัณฑ์ KBank Pay Later สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ต้องการขอสินเชื่อดิจิทัลเพื่อการซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยการทำพันธมิตรธุรกิจร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซท้องถิ่น Meta ที่ขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ยังได้เดินหน้าหาพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION CO., LTD.) หรือ KVision ที่เฟ้นหาบริษัทหรือสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจไปด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมลงทุนกับหลายบริษัทในเวียดนาม เช่น Sendo, KiotViet, Seedcom, Jio Health, Selly และอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจนั่นก็คือ Lich Viet แอปพลิเคชันเกี่ยวกับเรื่องดูดวงที่กำลังมาแรง ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 13 ล้านคน
ที่มา : มติชน