นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า หลังจากการระบาดโควิด-19 กว่า 3 ปีได้คลายตัวลงนั้น เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศไทย หอการค้าฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเตรียมจัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention-WCEC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเปิดเวทีให้นักธุรกิจได้พบปะ และเจรจาทางธุรกิจร่วมกัน เป็นการสร้างโอกาสใหม่หลังวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้น

 

โดยเชื่อมั่นว่าการจัดงานประชุมในครั้งนี้ จะมีนักธุรกิจชาวจีนจากทั่วโลกเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 2,000 คน มีผู้ติดตามหรือครอบครัวเข้ามาด้วยกว่า 4,000 คน รวมถึงนักธุรกิจชาวจีนและชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เข้าร่วมงานอีกประมาณ 1,000 คน ซึ่งขณะนี้เห็นการยืนยันเข้าร่วมงานประชุมบ้างแล้ว ได้แก่ นักธุรกิจจีนในญี่ปุ่น จำนวน 200 คน สิงคโปร์ 100 คน ฮ่องกง 100 คน มาเลเซียมากกว่า 100 คน รวมถึงกว่า 500 คนแล้ว ยังมียุโรป อาทิ สหรัฐ มีประมาณ 10-20 คน และดูไบ ที่มีองค์กรธุรกิจจีนกว่า 20 องค์กรกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมด้วย

 

“เราประเมินเม็ดเงินสะพัดในช่วงเพียง 3 วัน ที่จัดงานประชุมนั้น ไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาทแน่นอน เพราะขณะนี้มีนักธุรกิจจีนจากจำนวน 40-50 ประเทศ ให้ความสนใจในการเข้าร่วมการประชุมที่ไทยครั้งนี้ โดยการจัดงานประชุมใหญ่ในประเทศไทยครั้งนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นต่อสายตานักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการประชุมที่มีความเป็นสากล โดยเฉพาะสถานที่จัดการประชุมที่มองว่าดีสุดในอาเซียน รวมถึงเรายังได้อานิสงส์ในการท่องเที่ยวด้วย เพราะนักธุรกิจที่จะเข้ามา มีผู้ติดตามเข้ามาด้วย หรือมาพร้อมครอบครัว ทำให้คงไม่เข้ามาประชุมแค่ 3 วัน แต่น่าจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหลังการประชุมจบด้วย ซึ่งประเทศไทยจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากตรงนี้อีกเยอะมาก” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

 

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese r Convention – WCEC) ครั้งที่ 16 ระหว่างการบินไทยและหอการค้าไทย-จีน ถือเป็นหนึ่งในความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมดังกล่าวนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีหอการค้าจีน-ฮ่องกง และหอการค้าจีน-สิงคโปร์ เข้ามาสำรวจความเรียบร้อยในการจัดงาน ซึ่งได้รับเสียงตอบกลับมาตอนที่ได้เห็นสถานที่จัดงานคือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีความทึ่งมาก คิดไม่ถึงว่าจะมีขนาดใหญ่มากขนาดนี้ รวมถึงนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ก็ได้เดินทางเข้ามาในที่จัดงานนี้แล้ว ผ่านการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค 2022) ทำให้เราผ่านมาตรฐานในการจัดประชุมทุกอย่างแล้ว โดยเชื่อมั่นว่านักธุรกิจจีนที่จะเข้ามานั้น ต้องมีความประหลาดใจ (เซอร์ไพรส์) แน่นอน

 

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า สำหรับการเตรียมพร้อมในด้านการเดินทาง เราได้หารือในด้านคมนาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกภาคพื้นดิน รวมถึงมีการร่วมมือกับการบินไทยเข้ามาช่วยสนับสนุนในความพร้อมในการให้บริการด้านอากาศ อีกทั้งยังมีสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เข้ามาช่วยให้การต้อนรับนักธุรกิจจีนตั้งแต่ในสนามบินทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นผู้ช่วยรับส่งนักธุรกิจที่จะเข้ามา นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในสถานที่จอดรถรับส่ง ทั้งรถบัสและรถตู้ ที่มีลานจอดรถสามารถรองรับได้ในจำนวนมากด้วย

 

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนของการยุบสภาและการกำหนดวันเลือกตั้งที่มีความชัดเจนขึ้นนั้น มองว่าไม่มีผลกระทบกับการทำธุรกิจ เพราะนักธุรกิจจีนมองการลงทุนในระยะยาว ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้า โดยที่ผ่านมาก็มีการติดตามสถานการณ์และรับรู้ปัจจัยเหล่านี้มาก่อนแล้ว รวมถึงได้คาดการณ์ล่วงหน้าในช่วงการจัดงานที่มีความเหมาะสมแล้ว จึงไม่มีผลกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเข้ามาร่วมงาน

 

ด้านนายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า

การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศทั่วโลก และเป็น 1 ใน 5 สายการบินผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรสตาร์อัลไลแอนซ์ ให้บริการในเส้นทางบินที่เชื่อมโยงและครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก การบินไทย เล็งเห็นความสำคัญในการร่วมมือ ส่งเสริม และสนับสนุนการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลกในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมที่รวมนักธุรกิจชาวจีนจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งกลุ่มธุรกิจจีนรายใหญ่ และองค์กรภาคธุรกิจของไทย

 

“โดยขณะนี้การบินไทยพร้อมเปิดเส้นทางการบินหลัก 5 มณฑลใหญ่ มี 5 เส้นทางหลัก 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ได้เเก่ คุนหมิง กว่างโจว เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเพื่อรองรับผู้โดยสารทั่วโลกในปี 2566 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น การบินไทยประเมินแผนจัดหาอากาศยานเสริม อีก 10 ลำ ตามเป้าหมายว่าในปี 2567 การบินไทยจะมีอากาศยานในฝูงบินราว 70 ลำ”

 

นายกรกฏกล่าวว่า การบินไทยพร้อมจัดให้มีบัตรโดยสารราคาพิเศษ และกำหนดหมายเลขอีเวนต์ (Event code) สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 ซึ่งสามารถนำไปเป็นรหัสในการซื้อบัตรโดยสารในเส้นทางบินของการบินไทย ผ่านเว็บไซต์ thaiairways.com/mice เท่านั้น ซึ่งนอกจากเป็นการสร้างรายได้สู่องค์กรทั้งสองฝ่าย ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย

 

 

ที่มา :  กรุงเทพธุรกิจ