พีทีที ดิจิตอล ยกระดับคลาวด์ ขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่ม ปตท.สู่ดิจิทัล

พีทีที ดิจิตอล ผนึกไมโครซอฟท์ ยกระดับการทำงานและความปลอดภัยด้วยคลาวด์ระดับโลก ชูอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ ขับเคลื่อนภาคธุรกิจในยุคดิจิทัล
 
นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของบริษัทกลุ่ม ปตท. กล่าวว่า  PTT Digital ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลก เพื่อยกระดับกระบวนการดำเนินงานและการให้บริการ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญ พร้อมรองรับการขยายโอกาสทางธุรกิจ ทั้งบริษัทในกลุ่ม ปตท.
 
และภาคธุรกิจต่างๆ ในด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) รวมถึงการทำ Application Modernization ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงแอปพลิเคชันต่างๆ ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันบนคลาวด์ (Cloud native application) ช่วยให้องค์กรจัดการต้นทุนได้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการใช้งาน  Modern Devices เช่น Microsoft Surface อุปกรณ์แทบเล็ตที่มีการออกแบบให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง มีความคล่องตัวในการใช้งานฟังก์ชันและประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ Notebook สามารถรองรับการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) โดย PTT Digital เตรียมพร้อมที่จะให้บริการรองรับองค์กรและภาคธุรกิจในยุค Digital Transformation
 
ระบบป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญภายใต้การพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล และคาดการณ์ว่าจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกภาคส่วน ลดความเสี่ยงของการสูญเสียจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมหาศาล โดยจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
 
 
 นายกวีศักดิ์ บุญเฉลียว กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า ทุกวันนี้  ความเสี่ยงด้านไซเบอร์มีโอกาสเกิดได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการรั่วไหลของข้อมูลหรือถูกโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากภาคธุรกิจต่างๆ มีการเชื่อมต่อข้อมูลและใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในรูปแบบ Hybrid Cloud computing มากขึ้น โดย PTT Digital ในฐานะผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในระดับ Enterprise ได้ตระหนักถึงความสำคัญในด้าน Cybersecurity มาโดยตลอด จึงเตรียมพร้อมในการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านไซเบอร์ (Cyber Risk Management) ให้มีประสิทธิภาพและรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งยกระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของภาคธุรกิจให้มีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้น
 
โดย PTT Digital ให้ความสำคัญทั้งในส่วนของโซลูชันที่ช่วยเสริมแกร่งการให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในองค์กร ตอบโจทย์โมเดล Zero Trust ของ Microsoft ซึ่งเป็นรูปแบบการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่ที่ปรับเปลี่ยนตามความซับซ้อนของสภาพแวดล้อม พร้อมขยายขอบเขตการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ได้แบบไร้ขีดจำกัด รวมถึงพัฒนาทักษะในส่วนของบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้าน Cybersecurity และการนำโซลูชันของไมโครซอฟท์มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยเป็นไปตามมาตรฐาน ไมโครซอฟท์ เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีวิวัฒนาการในอนาคตได้อย่างทันท่วงที 
 
นอกจากจะช่วยยกระดับการดำเนินงานและการให้บริการ และองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยบนไซเบอร์ในขั้นสูงแล้ว การพัฒนาแอปพลิเคชันให้ทันสมัยใหม่และปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ PTT Digital ซึ่งความร่วมมือระหว่าง PTT Digital และไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ เป็นการยกระดับองค์ความรู้ให้พร้อมรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการให้บริการพัฒนา Application Modernization สนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างของแอปพลิเคชันให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและขีดความสามารถขององค์กรธุรกิจต่างๆ พร้อมรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล
 
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมื่อนวัตกรรมจากไมโครซอฟท์มาบูรณาการกับความสามารถอันยอดเยี่ยมของทีมงาน PTT Digital เราจะสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดการพัฒนาและทำงานร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยมั่นใจว่าทั้งสององค์กรจะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการนำดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนภารกิจต่างๆ มากมาย ทั้งในแง่การรับมือภาวะวิกฤต หรือการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน   
 
การลงนามความร่วมมือข้อตกลงครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 2 องค์กร ที่จะช่วยพัฒนาทั้งด้านกระบวนการดำเนินงาน และองค์ความรู้ของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีระดับสากล เพื่อก้าวสู่เป้าหมายของทั้งสององค์กรซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ สู่การทำธุรกิจแบบ Digitalization รวมถึงสนับสนุนการทำ Digital Transformation ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต (New S-Curve)
 
 
ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ
 

@Admin TVBC

สนใจสมัครสมาชิกหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายเลขานุการฯ
โทร: 02-018-6888 ต่อ 4340
Email: tvbc.secretariat@gmail.com

:)