เวียดนาม ตลาดใหม่มาแรง เร่งโครงสร้างพื้นฐานรับท่องเที่ยวโต
นับตั้งแต่ปี 2556 รัฐบาลเวียดนาม ได้จัดทำแผน แม่บทการท่องเที่ยวแห่งชาติ เพื่อวางแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ เวียดนามก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยถึงปีละกว่า 25% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติภายในประเทศเพียงแค่ราว 7 ล้านคน
เวียดนามก็สามารถรักษาอัตราการเติบโตและทำลายสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติของตัวเองมาโดยตลอดระยะเวลา 6-7 ปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเวียดนามเติบโตขึ้นมามากกว่า 115.23% และกลายเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว
ปี”63 นักท่องเที่ยว 20 ล้านคน
“Nguyen Ngoc Thien” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวัฒนธรรม กีฬา และท่องเที่ยว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ให้ข้อมูลว่า ในปี 2558-2560 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเวียดนามประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 8 ล้านคนสู่ 15.5 ล้านคน รวมถึงสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวภายในประเทศจาก 57 ล้านคน-ครั้ง เป็น 80 ล้านคน-ครั้ง ทำให้ปัจจุบันการท่องเที่ยวของเวียดนามสร้างรายได้กว่า 8.4% ให้กับ GDP ของเวียดนาม
โดยใน 10 เดือนแรกของปี 2562 ที่ผ่านมา เวียดนามได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปแล้วมากกว่า 14.5 ล้านคน ซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกับความสามารถในการแข่งขันที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 63 จาก 140 ประเทศที่ทำการสำรวจ
โดยแผนแม่บทการท่องเที่ยวเวียดนาม ตั้งไว้ว่า ภายในปี 2563 หรือปี 2020 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 20 ล้านคน มีการจ้างงานได้กว่า 3.5 ล้านตำแหน่ง และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 10% ของ GDP ประเทศ ก่อนจะดับเบิลรายได้ขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2573
สำหรับในปี 2562 ที่ผ่านมานั้นเวียดนามก็ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน โดยพบว่าในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) เวียดนามมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 9.8 ล้านคน หรือเติบโตแค่เพียง 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเคยเติบโตกว่า 25.4%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 และไตรมาสสุดท้ายของปี เวียดนามก็สามารถกลับมาทำลายสถิติด้วยอัตราการเติบโตที่ระดับ 34% และ 39% ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวเวียดนามในปี 2562 ยังคงเติบโตสูงถึง 2 หลัก
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2562 เวียดนามมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16,298,423 คน เติบโต 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราการเติบโตดังกล่าวถือว่าสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วโลกตามการจัดเก็บขององค์การการท่องเที่ยวโลก ที่ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 4% และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มขึ้น 5 และ 6% ตามลำดับ
เร่งขยายสนามบินทั่วประเทศ
และเพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวเวียดนามได้เร่งพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานเรื่อง “Vietnam Spotlight on the Accommodation & Tourism Industry” ที่รวบรวมโดย JLL hotels & hospitality group ระบุว่าเวียดนามมีแผนการขยายและสร้างท่าอากาศยานนานาชาติเพิ่มอีกหลายแห่งทั่วประเทศ
ปัจจุบันมีหลายแห่งที่ดำเนินการเสร็จแล้ว อาทิ ท่าอากาศยานดานัง, ท่าอากาศยานคัมรัน และท่าอากาศยานก๊าตบี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายแห่งที่อยู่ในแผนและอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ อาทิ ท่าอากาศยาน “โหน่ยบ่าย 2” ในฮานอย ที่ต้องการขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 35 ล้านคนต่อปีในปี 2573 และ 50 ล้านคนต่อปีในเฟสต่อไป รวมถึงท่าอากาศยาน
“เตินเซินเญิ้ต” ในนครโฮจิมินห์ ที่ต้องการขยายขีดความสามารถในการรองรับจาก 25 ล้านคนต่อปี เป็น 45 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2568 และท่าอากาศยาน “ล็องถั่ญ”ที่รัฐบาลเวียดนามต้องการสร้างใหม่ เพื่อลดภาระของสนามบินเตินเซินเญิ้ต และยกระดับขีดความสามารถสู่การรองรับผู้โดยสาร 100 ล้านคนต่อปี โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เช่นกัน
“แอร์ไลน์-โรงแรม” โหมลงทุน
นอกจากนั้น เวียดนามยังมีสายการบินสำคัญอย่างเวียดนามแอร์ไลน์ และเวียตเจ็ทแอร์ที่ขยายธุรกิจในประเทศอย่างรวดเร็ว ก่อนขยายฐานการให้บริการออกสู่ประเทศอื่น ๆ อาทิ ไทยเวียตเจ็ท พร้อมทั้งอยู่ระหว่างรอรับมอบเครื่องบินโบอิ้งอีก 100 ลำ รวมให้บริการกว่า 200 ลำในปี 2566
ขณะเดียวกัน เวียดนามยังได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการฮอลพิทาลิตี้ระดับโลก อาทิ อินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG), แอคคอร์, แมริออท, แพนแปซิฟิกและไฮแอท ฯลฯ ซึ่งเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
หวั่นไทยถูกแย่งตลาดจีน
จากรายงานของการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุด 5 ประเทศแรกของเวียดนาม ประกอบด้วย จีน 5,247,993 คน, เกาหลี 3,866,066 คน, ญี่ปุ่น 872,225 คน, ไต้หวัน 846,238 คน และสหรัฐอเมริกา 683,876 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จีน-เกาหลี” ที่ถือเป็นตลาดสำคัญของไทยเช่นกัน
“วิชิต ประกอบโกศล” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ระบุว่า สาเหตุที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเวียดนามเติบโตค่อนข้างมากนั้นมาจากเส้นทางบินที่ขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสำหรับตลาดจีนนั้นเวียดนามจะยังไม่แซงไทยได้ในเวลาอันใกล้ 3-5 ปีนี้แน่นอน แต่ถ้าหากไทยยังนิ่งเฉยไม่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัยในระยะยาว 5-10 ปีเวียดนามอาจแซงไทยในตลาดนี้ได้อย่างแน่นอน
เกาหลีแห่เที่ยว “เวียดนาม”
สอดคล้องกับ “Kang Eye Jong” อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ดูแลตลาดเกาหลีที่ให้ข้อมูลว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีในไทยเติบโตราว 5% ขณะที่ตลาดกรุ๊ปทัวร์มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดน้อยลงกว่า 11% เนื่องจากนักท่องเที่ยวหันไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น โดยปัจจุบันประเทศที่นักท่องเที่ยวเกาหลีนิยมเป็นอันดับ 1 คือประเทศ “เวียดนาม” เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่จำนวนมากให้นักท่องเที่ยวได้ทดลอง พร้อมทั้งบอกด้วยว่า จากค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นอย่างมาก ปัจจุบันเงิน 1 หมื่นวอนที่เคยแลกเงินไทยได้ถึง 300 บาทลดลงเหลือเพียง 250 บาทเท่านั้น นักท่องเที่ยวเกาหลีจึงตัดสินใจมาไทยยากขึ้น และเลือกเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ แทน
ในห้วงเวลานี้ “เวียดนาม” จึงถูกจับตามองว่าเป็นประเทศที่มาแรงและน่ากลัว สำหรับประเทศไทยไม่น้อย หากทุกภาคส่วนด้านการท่องเที่ยวของไทยไม่ตระหนัก อีกไม่นานไทยเราอาจสูญเสียนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กับเวียดนามแน่นอน…
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 10 มกราคม 2563