"วินฟาสต์" ถอยทัพ! เลื่อนเปิดโชว์รูมในไทย หลังยอดขาย EV ทั่วโลกชะลอ
"วินฟาสต์" ถอยทัพ! เลื่อนเปิดโชว์รูมในไทย หลังยอดขาย EV ในไทยและทั่วโลกชะลอ ประเมินโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและย้ำว่าไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าวินฟาสต์ ออโต้(VinFast Auto)ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากเวียดนาม กำลังเลื่อนการเปิดเครือข่ายโชว์รูมในประเทศไทย ท่ามกลางการชะลอตัวอของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศ
วินฟาสต์เผยว่า บริษัทได้เลื่อนการเปิดตัวโชว์รูมของเราในประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินงานของเราสอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกของวินฟาสต์ พร้อมกับวินฟาสต์จะ "ประเมินอย่างรอบคอบ" เกี่ยวกับช่วงเวลาการขายรถยนต์ไฟฟ้าของตนในประเทศไทย
ในเดือนมีนาคม VinFast ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงกับตัวแทนจำหน่ายเบื้องต้น 15 รายในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดโชว์รูม 22 แห่งในกรุงเทพมหานคร โดยไม่ได้ระบุกรอบเวลา
ตอนนี้ วินฟาสต์ ได้ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัวโชว์รูมในประเทศไทยออก ท่ามกลางภาวะตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกที่กำลังเผชิยกับความท้าทายอย่างหนัก ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับโลกหลายราย อาทิ Ford, GM, Volkswagen และ Tesla ต่างก็ปรับลดเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม VinFast ระบุว่าประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของ VinFast และบริษัทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแผนธุรกิจสำหรับตลาดอื่นๆ
เมื่อเดือนที่แล้ว VinFast กล่าวว่าจะเลื่อนการเปิดโรงงานในนอร์ทแคโรไลนาออกไปสามปีเป็นปี 2571 เพื่อบริหารการใช้จ่ายในระยะสั้นให้ “มีประสิทธิภาพมากขึ้น" และมุ่งเน้นทรัพยากรไปที่เป้าหมายการเติบโตในระยะใกล้ นอกจากนี้ยังลดเป้าหมายยอดขายทั้งปีลงเหลือ 80,000 คันจากเป้าหมายเดิม 100,000 คัน
ก่อนหน้านี้ ฝ่าม เญิ๊ต เวืองผู้ก่อตั้งมหาเศรษฐีและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ VinFast ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV ในเดือนมิ.ย.ว่า “พร้อมที่จะเดิมพันเงินทั้งหมดของเขากับการเติบโตของบริษัท”
วินฟาสต์ กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าที่จะเข้าถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอย่างน้อย 50 ประเทศทั่วโลกภายในปี 2567 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ล่าสุด บริษัทได้ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า นอกจากนี้ วินฟาสต์ยังได้เริ่มก่อสร้างโรงงานประกอบแห่งใหม่ในอินโดนีเซียเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการขยายฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชีย
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ