นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะทำงานภาคเอกชนที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 เปิดเผยว่า ธุรกิจภาคเอกชนได้ประชุมหารือกันต่อเนื่อง เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการกลับมาเปิดธุรกิจ เน้นวิธีการทำงาน ทั้งเรื่องการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งของผู้เข้ามาใช้บริการและพนักงาน รวมถึงสถานที่ และอุปกรณ์เครื่องดื่ม เช่น การจัดพื้นที่เว้นระยะห่าง ภายในอาคารเน้นอากาศถ่ายเท ควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการในเวลาเดียวกัน อุปกรณ์ต้องมีการเปลี่ยนตลอด มีระบบการตรวจวัด หากเป็นไปได้รวมถึงแอพพลิเคชั่นป้องกันต่างๆ เป็นต้น โดยธุรกิจยืนยันได้เตรียมความพร้อมแล้ว และเชื่อว่ารัฐจะปลดล็อก ล็อต 2 ในเดือนพฤษภาคมนี้

 

"ถ้าสถานการณ์โควิดในไทยไม่ได้รุนแรงเพิ่ม ตามกรอบเดิมกำหนดให้มีการปลดล็อกให้ธุรกิจเปิดเพิ่มทุก 14 วัน ซึ่งล็อตแรกเปิดวันที่ 3 พฤษภาคม และเห็นว่าสถานการณ์น่าพอใจ ทั้งผู้ให้บริการและผู้เข้าใช้บริการต่างระวังเรื่องการป้องกัน คาดว่าธุรกิจอีกจำนวนหนึ่งน่าจะได้รับความเห็นชอบกลับมาเปิดประมาณวันที่ 17 พฤษภาคม ล็อตนี้จะเป็นกลุ่มค้าปลีก ทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านค้าภายในศูนย์การค้า เชื่อว่าครั้งนี้ธุรกิจจะถูกปลดล็อกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศูนย์บริหารโควิด (ศบค.) แต่ผมเชื่อว่าครั้งนี้น่าจะปลดล็อกธุรกิจได้หลากประเภทมากขึ้น" นายกลินท์กล่าว

 

นายกลินท์กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) วันนี้ ( 7 พ.ค.) 3 คณะกรรมการจาก 5 ชุดที่เป็นที่ปรึกษาในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ คณะกรรมการการกลับมาเปิดธุรกิจที่ตนเป็นประธาน คณะกรรมการด้านดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีไทย และคณะกรรมการดูแลมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) จะรายงานความคืบหน้าว่าทำอะไรบ้างแล้ว และได้เสนออะไรต่อรัฐบาลบ้างแล้ว

 

 

Source - มติชน

ติดตามข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ได้ทาง

website : www.thaichamber.org

Line@ : https://bit.ly/2ZiAoCc

Instragram : https://bit.ly/2v5TYE7

Facebook : https://bit.ly/2V388o8

YouTube Channel : https://bit.ly/2Un4uAU